เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการข้ามแดนที่ด่านตรวจคนเข้าเมือองจังหวัดเลย อ.เชียงคาน จ.เลย หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งด่านผ่านแดนถาวรนั้นได้เปิดเมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 ส่วนด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเลย ณ อ.เชียงคาน จ.เลย เชื่อมกับเมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว อันมีแม่น้ำโขงเป็นพรมแดนกั้น และเป็นด่านท้องถิ่นทำการเปิดเมื่อวันที่ 6 ก.ย.65 ที่ผ่านมา เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.ภายใต้มาตรการเข้มด้านการป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 ของทั้งไทยและ สปป.ลาว เริ่มมีความคึกคักเป็นลำดับเนื่องจากประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงได้ยากลำบากมากว่า 2 ปี จากการระบาดของเชื้อโควิด-19
จากการสอบถามประชาชนชาวเมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว กล่าวว่า ตนมีบ้านเรือนอยู่ที่สานะคามริมแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้ามกับ อ.เชียงคาน ปกติต้องยากลำบากมากกับการที่ครอบครัวเพื่อนบ้านต้องเดินทางไปพบแพทย์หาหมอไปตลาด ซื้อสิ่งของในครัวเรือนและสิ่งของอื่นๆ ที่แขวงนครเวียงจันทน์ที่มีอัตราค่ารถ 400 บาทไทย ไป-กลับ 800 บาท ด้วยระยะทางที่ห่างไกล หากจะเดินทาง ด้วยรถรับจ้างจากสานะคาม-เมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุรี –สะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว ที่ อ.ท่าลี่ – ตัวเมืองเลย ก็ราคาค่ารถไป-กลับ 1,000 บาทไทย/คน
แต่เมื่อมีการเปิดด่านเชียงคาน-สานะคาม ทุกคนรู้สึกดีใจมาก เพราะต้องลดระยะเวลาการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายลง เนื่องจากอยู่ใกล้ๆเพียงแม่น้ำโขงกั้นเท่านั้น เอื้อประโยชน์ทั้งด้านชีวิตความเป็นอยู่ การเข้ามาเพื่อซื้อสินค้า อุปโภค-บริโภค การแลกเปลี่ยนประเพณี วัฒนธรรม เพื่ือการท่องเที่ยว การได้มาพบญาติมิตร เกิดความรักความอบอุ่นขึ้นมาก โดยเฉพาะตนมีลูก 2 คน คนโตมีสามีที่จังหวัดเลย ส่วนคนเล็กเรียนหนังสือที่เมืองสานะคาม สปป.ลาว วันนี้ได้มาพบลูกสาวดีใจมีความสุขมาก ซึ่งได้ปฏิบัติทุกขึ้นตอนทุกอย่างตามมาตรการควบคุมโรค ตามกฎระเบียบข้อบังคับด้านโรคโควิดและด้านอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด.
ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย