logo

จับตา 15 ก.ย. ศาลฯไต่สวนท่อส่งน้ำEEC ย้อนพิรุธ “กรมธนารักษ์” ล้มประมูล

จับตา 15 ก.ย. ศาลฯไต่สวนท่อส่งน้ำEEC ย้อนพิรุธ "กรมธนารักษ์" ล้มประมูล

ถือเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ ที่ยังต้องรอบทสรุปจากคำพิพากษาศาลปกครอง สำหรับการประมูลระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก EEC มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท หลังจาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปครอง ให้พิจารณาความถูกต้อง ชอบธรรม ที่เกิดขึ้น จากการประมูลถึง 2 รอบ โดยกรมธนารักษ์ในฐานะผู้รับผิดชอบ เลือกไม่นำผลการประมูลครั้งที่ 1 มาดำเนินการให้เป็นไปตามหลักปฏิบัติทั่วไป แต่ใช้ผลประมูลครั้งที่ 2 เดินหน้าเซ็นสัญญากับ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด โดยอ้างถึงเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนมาเป็นปัจจัยหลักชี้วัด

โดยล่าสุด สำนักงานศาลปกครอง ได้แจ้งวันที่ 15 ก.ย. 2565 นี้ กำหนดเป็นวันนัดไต่สวนครั้งแรก ในคดีที่บริษัท อีสท์ วอเตอร์ ยื่นฟ้องขอเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน ในการจัดให้เช่า/บริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ที่ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ฉบับลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 และขอเพิกถอนประกาศเชิญชวนฯ ฉบับใหม่ ลงวันที่ 10 กันยายน 2564

ขณะที่ถ้าไล่ย้อนไทม์ไลน์เรื่องนี้ จะเห็นได้ชัดว่ามีหลายปมประเด็นที่เป็นข้อพิรุธ จนถูกนำไปใช้เป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ซึ่งอนุมัติให้กรมธนารักษ์ ดำเนินการเซ็นสัญญากับบริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ทั้ง ๆ ที่ศาลปกครองยังไม่มีคำพิพากษาความผิด หรือ ถูก จากการยกเลิกผลประมูลโครงการครั้งที่ 1 เริ่มจาก

– 16 ก.ค.64 คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก(คณะกรรมการคัดเลือกฯ ) ออกประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก

– 23 ก.ค.64 เชิญชวนเอกชนที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขตามที่กรมธนารักษ์กำหนด จำนวน 5 ราย เข้าร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดโครงการฯ ได้แก่ 1.บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชั่น 2. บมจ. จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ อีสท์ วอเตอร์ 3.บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ 4.บมจ.วิค 5.บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด

– 9 ส.ค.64 กรมธนารักษ์ เปิดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอ ปรากฎว่ามีเอกชน 3 ราย เข้ายื่นข้อเสนอ โดยบมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ อีสท์ วอเตอร์ และบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เข้าร่วมด้วย

– 13 ส.ค.64 เอกสารการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ โดย นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในขณะนั้น มีข้อสรุปเห็นชอบการรวมคะแนน ซองข้อเสนอที่ 1 ถึง 3
หรือ (1) ซองข้อมูลทั่วไป ตามด้วยซอง ( 2) ข้อเสนอด้านเทคนิค และ ซอง ( 3) ข้อเสนอค่าแรกเข้า เพื่อทำสัญญา และผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ปรากฎว่า ในส่วน อีสท์ วอเตอร์ ได้ 173.83 คะแนน และ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้คะแนน 170.10 คะแนน

 

– 19 ส.ค. 64 คณะกรรมการคัดเลือกฯ โดย นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้ อ้างถึงเงื่อนไขใหม่ ที่ต้องนำมาพิจารณา ว่า การทำสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชน ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของรัฐหรือสาธารณะเป็นสำคัญเหนือกว่าสิ่งอื่นใด

– 26 ส.ค.64 คณะกรรมการคัดเลือกฯ มีหนังสือถึงผู้ยื่นซองข้อเสนอแจ้ง ‘ยกเลิก’ การประมูลโครงการฯ ตามประกาศเชิญชวนฯ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564

– 10 ก.ย.64 ออกประกาศเชิญชวนฉบับใหม่ เป็นครั้งที่ 2 โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ปรับปรุงประกาศเชิญชวนฯฉบับเดิม และมีหนังสือเชิญเอกชน 5 รายเดิม เข้าร่วมประชุม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

– 23 ก.ย.64 อีสท์ วอเตอร์ ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน และกรมธนารักษ์ ต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลฯมีคำสั่งหรือคำพิพากษา เพิกถอนมติคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่แจ้งยกเลิกการประมูลตามประกาศเชิญชวนเอกชนฯ ลงวันที่ 16 ก.ค.2564 และให้ดำเนินการคัดเลือกเอกชนต่อไป พร้อมขอให้เพิกถอนประกาศ พร้อมหนังสือเชิญชวนฉบับใหม่ ลงวันที่ 10 ก.ย.2564 และขอให้ศาลฯมีคำสั่ง ‘คุ้มครองชั่วคราว’ ให้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ และกรมธนารักษ์ งดเว้นการกระทำใดๆ ตามกระบวนการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ ลงวันที่ 10 ก.ย. 2564

 

– 28 ก.ย.64 เปิดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอฯ ครั้งใหม่ และ ทางอีสท์ วอเตอร์ ในฐานะผู้ชนะการประมูลครั้งที่ 1 ได้พยายามซักค้าน แต่ปรากฎว่าคณะะกรรมการคัดเลือก ไม่เปิดโอกาสให้ซักถาม-ฟังคำชี้แจง

– 30 ก.ย.64 ประกาศผลการคัดเลือก ปรากฎว่า คณะกรรมการฯตัดสินใจให้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โดยอ้างว่าเป็นผู้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐสูงสุดที่ 25,693.22 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 30 ปี ขณะที่อีสท์ วอเตอร์ เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐ 24,212.84 ล้านบาท คิดเป็นส่วนต่างราว 1,480 ล้านบาท และเป็นประกาศผลอย่างเร่งรีบ เร่งรัด ในวันที่ ยุทธนา หยิมการุณ กำหนดพ้นเกษียณอายุราชการ ในวันเดียวกัน

– 5 พ.ย.64 อีสท์วอเตอร์ ยื่นฟ้องร้องศาลปกครองกลาง พร้อมขอให้มีการคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยศาลปกครองกลาง ได้รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา แต่มีคำสั่งยกคำร้องขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา และคำร้องความไม่ชอบการพิจารณากระบวนการประมูลของกรมธนารักษ์ ยังคงอยู่ในขั้่นตอนพิจารณา และไม่มีคำพิพากษาใด ๆ ในกรณีดังกล่าว

– 9 ก.พ.65 นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 1 ต.ค.2564 ประกาศเดินหน้าโครงการฯ โดยการเสนอผลการคัดเลือกเอกชน ในโครงการบริหารท่อส่งน้ำ EEC ที่มีบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เสนอประโยชน์ตอบแทนสูงสุด ให้บอร์ดที่ราชพัสดุ พิจารณาอนุมัติ

 

– 11 ก.พ.65 ที่ประชุมคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ครั้งที่ 1/2565 มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 4 ชะลอการอนุมัติผลการประมูลท่อส่งน้ำ EEC โดยให้รอคำพิพากษาศาลปกครองก่อน

– 9 มี.ค. 65 ศาลปกครองมีหนังสือ เป็นคำสั่งเนื่องจากเห็นว่าคำร้องของอีสวอเตอร์มีความสำคัญ เพราะหากการคัดเลือกเอกชน เพื่อเข้าทำสัญญาในโครงการดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป จนมีการลงนามในสัญญา ย่อมทำให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในการประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมยื่นข้อเสนอครั้งแรกได้รับความเสียหาย ศาลจึงมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วนตามข้อ 49/2 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543

– 14 มี.ค. 65 ที่ประชุมคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ครั้งที่ 2/2565 กลับมติ 6 ต่อ 3 ให้รับรองผลการประมูล ระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ตามที่กรมธนารักษ์เสนอมา โดยเสียงข้างน้อย 2 เสียง ให้รอคำสั่งศาลปกครองกลาง และของดออกเสียง 1 เสียง

 

 

– 14 มี.ค.65 อีสท์ วอเตอร์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครอง พิจารณาไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อคุ้มครองชั่วคราวอีกครั้ง หลังจากคณะกรรมการที่ราชพัสดุ มีมติรับรองผลการประมูล ครั้งที่ 2

– 12 เม.ย.65 ศ าลปกครองกลางมีคำสั่้งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว แต่ระบุในคำวินิจฉัย ตอนหนึ่งระบุว่า “ถึงแม้ต่อมาจะได้มีการลงนามเพื่อเข้าทำสัญญาในโครงการที่พิพาทแล้ว แต่หากปรากฎว่าการดำเนินการเพื่อคัดเลือกคู่สัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมพิจารณาเพิกถอนการดำเนินการดังกล่าวได้”

– 3 พ.ค.65 กรมธนารักษ์ เดินหน้านัด บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ลงนามสัญญาครั้งที่ 1 ก่อนจะแจ้งเลื่อนออกไป โดย นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุเพื่อทำความเข้าใจกับสื่อและสังคม ให้เสร็จสิ้นก่อน

 

 

– 2 ส.ค. 65 ศาลปกครอง มีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษา โดยสั่งระงับการลงนามสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เนื่องจาก อีสท์วอเตอร์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมเอกสารประกอบเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราว ก่อนการมีคำพิพากษาโดยขอให้สั่งระงับการลงนามสัญญาในวันที่ 3 ส.ค. 2565 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

– 3 ส.ค. 65 กรมธนารักษ์ แจ้งเลื่อนการลงนามกับ บริษัทวงษ์สยาม ออกไปก่อน เป็นครั้งที่ 2 ตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ให้ทุเลาการบังคับการดำเนินการ ในการเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำภาคตะวันออก ระหว่างกรมธนารักษ์ กับ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด

 

ทั้งนี้้ประเด็นสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในความพยายามของกรมธนารักษ์ ที่จะเดินหน้าเซ็นสัญญากับ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ทั้ง ๆ ที่ศาลปกครอง ยังไม่มีคำพิพากษาอย่างหนึ่งอย่างใด ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

โดยเฉพาะ กรณีที่ ศาลปกครองได้เน้นย้ำมาโดยตลอด ว่า จะเร่งพิจารณาคำร้องของบริษัทอีสท์วอเตอร์ ในเรื่องผลการประมูลที่ไม่เป็นธรรม พร้อมสั่งให้ผู้ถูกร้อง หรือ กรมธนารักษ์ ดำเนินการยื่นเอกสาร หลักฐาน ชี้แจงโดยเร็วที่สุด ถึง 2 ครั้ง แต่ปรากฏที่ผ่านมา เป็นทางด้านกรมธนารักษ์ กลับไม่นำส่งเอกสารสำคัญ เพื่อประกอบการพิจารณาของศาลปกครอง จนส่งผลให้กระบวนการพิจารณาของศาลปกครอง ยืดเยื้อมาจนเข้าสู่เดือนที่ 14 แล้ว

ไม่เท่านั้น กรมธนารักษ์ ยังเลือกจะดำเนินการอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง กรณี มีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว หรือ สั่งระงับการลงนามสัญญา กับ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ก่อนมีคำพิพากษา แทนที่จะทำให้กระบวนการพิจารณาคดีเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

และนี่จึงเป็นคำถามข้อใหญ่ ว่าทำไมกรมธนารักษ์ ถึงให้ความสำคัญกับการเร่งเซ็นสัญญาโครงการ กับ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง แทนที่จะทำให้ขั้นตอนการพิจารณาคำร้องของศาลปกครอง ดำเนินไปตามขั้นตอนและได้ข้อยุติเร็วที่สุด เพื่อให้การประมูลเป็นอย่างถูกต้อง และป้องกันค่าโง่ที่จะเกิดขึ้นตามมา หลังเซ็นสัญญากับบริษัทเอกชน ก่อนมีคำพิพากษา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตามหาวุ่นทั้งคืน ผู้ต้องขังหนุ่มเมียนมา หนีจากรถตร.หน้าโรงพักนิคมฯ ลำพูน กุญแจยังล็อกคาข้อมือ
สลด ผัวโหดเมียนมา ใช้ค้อนทุบหัวเมียดับ ก่อนเผ่นหนีพร้อมหมา ทิ้งร่างหมกห้อง 5 วัน ตร.เร่งล่าตัว
"นายกฯ" แถลงชัดยึดมั่น พิทักษ์รักษาสถาบันฯ บริหารแผ่นดินซื่อสัตย์สุจริต พร้อมทำคนไทยมีกิน มีใช้
ม็อบฮึ่ม ส่งซิกบุกทำเนียบฯ หยุดระบอบ “ทักษิณ” ค้านเปิดบ่อน-นิรโทษ 112
พกร่มด่วนๆ อุตุฯ เตือน 43 จว. เตรียมรับมือฝนถล่มหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.เจอฝน 60%
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่อยุธยาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัยน้ำท่วม
"โสภณ" ลั่น ร่าง พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ต้องปฏิวัติการศึกษา เท่าเทียม ทั่วถึง ทันยุค
ครม.นัดพิเศษ แต่งตั้ง "หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์" นั่งเลขาธิการนายกฯ
ตามรวบ "สาวแสบมิจฉาชีพออนไลน์" ส่งลิ้งลวงเหยื่อ ขอคืนเงินค่า FT ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี เสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
ททท.จัดต่อเนื่อง "Amazing Muay Thai Experiences" ตอกย้ำเสริมเสน่ห์ไทยด้วยกีฬา "มวยไทย" ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสประสบการณ์ถึงถิ่นกำเนิดมวยดี 4 สาย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น