“รองผู้ว่าฯกทม.” เคลื่อนไหว ชี้แจงปมตัดงบน้ำท่วมพาหัวคะแนนไปเที่ยว

"รองผู้ว่าฯกทม." เคลื่อนไหว ชี้แจงปมตัดงบน้ำท่วมพาหัวคะแนนไปเที่ยว

วันที่ 12 ส.ค. 65 นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงกรณี กรณี นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ออกมาระบุว่า พบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพฯ ปี 2566 โดยตัดงบแก้จัดการน้ำเป็นงบดูงาน ว่า หลังเรื่องผ่านสภา กทม. ก็มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา ซึ่งมีทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กับข้าราชการ และในส่วนของฝ่ายบริหาร ร่วมกันพิจารณา ซึ่งคราวนี้การพิจารณาไม่แตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา โดยหลังผ่านการพิจารณา คณะกรรมการก็จะไปพิจารณาว่าโครงการไหน รายการใดที่จะสามารถผ่านไปดำเนินการใช้ในปีต่อไปได้

“ยืนยันว่าคณะกรรมการวิสามัญ ไม่ได้ตัดงบประมาณเกี่ยวกับเรื่องการระบายน้ำเลย แต่ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการวิสามัญชุดนี้ ก็พิจารณาว่าโครงการไหน หรือรายการไหน อาจจะมีการเบิกจ่ายเงินล่าช้า หรือการทำงานไม่เป็นไปตามสัญญา ก็อาจจะมีการลดจำนวนงบฯ ลง แต่ยืนยันไม่มีการตัด ในส่วนของเขตจตุจักรก็เหมือนกัน เฉพาะเขตจตุจักร ใช้งบประมาณไปประมาณ 536 ล้านบาท ในรอบแรก คณะกรรมการวิสามัญ ตัดไปแค่ 60,000 บาท ซึ่งเป็นการพิจาณาเกี่ยกับการก่อสร้างพื้นที่สีเขียว แต่หลังจากนั้น เขตจุตจักร คณะกรรมการพิจารณาแล้ว ท่านผู้อำนวยการเขต แปรฯ งบประมาณมากพอสมควร ประมาณเกือบ 20 ล้านบาทได้ ในจำนวนนี้ ก็มีเกี่ยวกับเรื่องการขอเงินไปลอกท่อระบายน้ำเพิ่มเติม 3 ล้าน และทำฝาท่อระบายน้ำเพิ่ม 2 ล้าน ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญ ให้ผ่านหมด” นายจักกพันธุ์ กล่าว

นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน งบประมาณโดยรวมของสำนักงานเขตจุตจักร มีงบเพื่อการแก้ไขน้ำท่วมขัง เกือบ 20 ล้าน คณะกรรมการวิสามัญ ไม่ตัดเลย ขณะเดียวกัน งบแปรฯ ของสำนักงานเขตจตุจักร ได้ขอเงินโครงการดูงาน สัมมนามา 5 โครงการ

“โครงการแรก เป็นการสัมนนา โครงการของข้าราชการ โครงการที่ 2 ของคนงาน สำนักงานเขตจตุจักร อีกโครงการ เกี่ยวข้องกับทางชุมชน ไปศึกษาดูงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานเขตจตุจักร ต้องการพิจาณาการทำงาน โดยประชาชนมีส่วนร่วมด้วย” นายจักกพันธุ์ กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่าตอนนี้ ทาง กทม.ไม่มีข้อกังวลใดๆ เรื่องการตัด-เพิ่มงบฯ ตามที่หลายคนตั้งข้อสงสัย
นายจักกพันธุ์ ชี้ว่า ก็เป็นการขอจัดตั้งงบประมาณ และแปรญัตติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า ถ้ากรณีสำนักงานเขตใดพิจารณาแล้ว อาจจะขอยกเลิกโครงการ ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ

เมื่อถามว่าทางเขตจตุจักร ของบฯ ไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับอะไร นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า โครงการแรก เป็นการดูงานของข้าราชการ สำนักงานเขตจตุจักร โครงการที่ 2 เป็นการศึกษาดูงานของลูกจ้าง คนงานของเขตจุตจักร อีก 3 โครงการ เป็นการพาชุมชนไปศึกษาดูงานต่างจังหวัดเช่นกัน ขณะเดียวกัน ก็เป็นรื่องของฝ่ายพัฒนาชุมชน ซึ่ง ผู้อำนวยการเขตเอง ก็มีความประสงค์เอาประชาชนในพื้นที่ของท่าน มามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสำนักงานเขต ส่วนเขตอื่นก็มีโครงการลักษณะนี้เช่นเกียวกัน แต่อาจจะมีจำนวนโครงการมากน้อย แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนของข้าราชการ บุคลาการ ของสำนักงานเขตนั้นๆ

เมื่อถามว่า ถือเป็นเรื่องปกติหรือไม่ นายจักกพันธุ์ ระบุว่า โดยปกติที่ผ่านมา โครงการเช่นนี้มีมาทุกปี ขณะเดียวัน ปี 2561-2562 มีปัญหาเรื่องโควิด-19 โครงการเหล่านี้จึงหายไป หากเอาคนเป็น 100 คน ไปนอนรวมกัน กินอยู่ด้วยกัน อาจมีปัญหาติดโรคภัยไข้เจ็บ ประเด็นสำคัญ เรื่องนี้ก็เป็นความประสงค์ของชุมชน สำนักงานเขตในพื้นที่ด้วย จากหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาโควิดอาจทำให้มีความเหินห่างกันนิดหน่อย ระหว่างชุมชน กับสำนักงานเขต การที่เขาสามารถจะไปทำกิจกรรมด้วยกันได้ ก็อาจจะเสริมสร้างการทำงานของสำนักงานเขตกับประชาชน ให้มีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

 

เมื่อถามถึง ระดับบุคคลที่จะไปร่วมโครงการ คือหัวหน้าชุมชนใช่หรือไม่ มีประเด็นว่าเป็นการพาหัวคะแนนไปเที่ยว เป็นรางวัลให้ จนเป็นดราม่าช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ทางผู้บริหาร กทม.จะชี้แจงอย่างไร นายจักกพันธุ์กล่าวว่า เรื่องนี้ จำนวนคนก็อยู่ที่งบฯ ที่สำนักงานเขตเป็นคนก่อตั้งขึ้นมา ส่วนจะเป็นใครบ้าง อยู่ที่การคัดเลือกของสำนักงานเขต ตนเรียนว่า การจัดสรรงบประมาณ ของเขตแต่ละครั้ง เป็นอำนาจฝ่ายบริหาร ความจริงแล้วสมาชิกสภา กทม. ตามกฎหมาย แล้ว คงไม่มีอำนาจใช้งบฯ โดยที่ฝ่ายบริหารไม่จัดสรรลงไป ฉะนั้นยืนยันเลยว่า การที่สำนักงานเขตจะไปเอาหัวคะแนนมา เพื่อพาไปเที่ยว ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ใช่โครงการพาคนไปเที่ยว แต่เป็นโครงการที่พาข้าราชการ บุคลากรของสำนักงานเขตก็ดี ชุมชนก็ดี ไปศึกษาดูงาน ยืนยันว่าโครงการไปเที่ยวไม่มีเด็ดขาด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น