“รมว.อุตฯ” สั่งติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด วางมาตรการดูแลนิคมฯเต็มที่

ขณะเดียวกัน ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง พบว่า ยังไม่น่ากังวลใจเช่นเดียวกัน เนื่อง ระดับน้ำนอกนิคมฯแม้อยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1 เมตร แต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าสันเขื่อนที่ป้องกันน้ำท่วม 1.25 เมตร และการนิคมฯยังมีความสามารถในการระบายน้ำได้อย่างดีเยี่ยม โดยระบายน้ำได้ถึง 72,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และยังสามารถรับน้ำฝนได้อีก หากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาไม่เกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ทางด้านกระทรวงอุตสาหกรรมและการนิคมฯ ได้มีการเตรียมความพร้อม แผนเผชิญเหตุ และเเผนฉุกเฉิน ไว้เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงได้สั่งการให้มีการขุดลอกทางระบายน้ำทั้งในและนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม พร้อมเสริมคันดินบางพื้นที่ให้สูงขึ้น ไม่ให้น้ำจากด้านนอกนิคมฯไหลเข้าสู่ภายในการนิคมฯได้ และได้พร่องน้ำในบางพื้นที่ เพื่อรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมา เตรียมเครืองสูบน้ำ กระสอบทราย เพื่อให้ใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงได้มีการประสานไปยังหน่วยงานท้องถิ่น กรมชลประทานจังหวัด เพื่อขอสนับสนุน อุปกรณ์การสูบน้ำ และร่วมกันประเมินสรุปสถานการณ์น้ำ เพื่อรายงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงความร่วมมือ แนวทางการประสานงานกับภาคเอกชน ในการรับมือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน นั้น ได้สั่งการให้การนิคมฯ ไปซักซ้อมแผนฉุกเฉิน กรณีเกิดอุทกภัย ซึง่ที่ผ่านมา ได้มีการซักซ้อมกับหน่วยงานทั้งส่วนท้องถิ่น และจังหวัด โดยให้มีการสื่อสาร แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการผ่านระบบต่างๆ เช่น ไลน์ sms โดยกรณีที่มีความเสี่ยงเกิดอุทกภัย เช่น มีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่นิคมฯ เกิน 120 มิลลิเมตร ให้แจ้งผู้บริหารให้ทราบอย่างรวดเร็ว จนกว่าสถานการณ์จะยุติ