เหตุเกิดจากกระแสโซเชียลทัวร์ลง10ล้อพ่วงหัวร้อนวันนี้14ก.ย.65ผู้สื่อข่าวได้พบกับนางสาวอรยาชารุดอายุ32ปีคู่กรณีคนแรกของ10ล้อหัวร้อนเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อเวลาประมาณ14:00น.ของวันที่13ก.ย.65ที่ผ่านมาตนกับเพื่อนอีกคนได้ไปทานอาหารระหว่างพักเที่ยงที่ร้านบ้านโพธิ์ริเวอร์ไซด์อยู่ที่ต.สนามจันทร์อ.บ้านโพธิ์จ.ฉะเชิงเทราซึ่งอยู่ถนนเส้นหัวเนิน-บ้านโพธิ์เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วตนกับเพื่อนได้ขับรถออกมาจากซอยร้านเพื่อที่จะกลับไปทำงานที่ตำบลบางวัว อ.บางปะกง
โดยขณะที่ตนขับรถออกมาจากร้านอาหารนั้นจะต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อออกไปถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกงไปทำงานที่ต.บางวัวอ.บางปะกงจากที่ตนกะระยะอยู่ว่าระหว่างที่ตนจะเลี้ยวนั้นน่าจะพ้นจาก10ล้อคันดังกล่าวเพราะว่า10ล้อยังอยู่อีกไกลหลังจากนั้นตนเองได้เลี้ยวรถออกมาจากซอย10ล้อคันดังกล่าวก็ได้บีบแตรไล่ตนน้องที่นั่งมาด้วยกันบอกให้ตนแอบข้างทางแต่ตนเองเห็นว่าถนนค่อนข้างแคบมากเนื่องจากวิ่งได้เลนเดียวตนจึงพยายามเร่งความเร็วเพื่อให้พ้นแต่10ล้อคันดังกล่าวก็ไม่ยอมลดละขับไล่จี้ตนเองมาติดๆตนเองรู้สึกกลัวมากก็ยิ่งเร่งความเร็วเพื่อหลบหนีแต่พอระยะใกล้ถึงทางออกถนนเส้นฉะเชิงเทรา-บางปะกงจังหวะนั้นรถถนนเลนขวาว่าง10ล้อก็ได้แซงขวาแล้วปาดหน้าตนเองจากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถพร้อมกับถือเหล็กหรือไม้ตนเองก็มองไม่ชัดเข้ามาพยายามหาเรื่องด่าทอและยกไม้ขึ้นจะฟาดรถตนแต่ตนก็เปิดกระจกออกไปรีบยกมือขอโทษและน้องอีกคนก็ช่วยกันขอโทษจากนั้นสักพักคนขับ10ล้อคันดังกล่าวก็ได้ขึ้นรถและขับออกไปจากที่เกิดเหตุตนเองรู้สึกตกใจและกลัวมากจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.แสนภูดาษและมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์เผื่อใครพบเจอเหตุการณ์แบบตนจะได้ตั้งสติได้ก่อนจะเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน
ส่วนเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นเมื่อเวลา15:00น.ของวันที่14ก.ย.65โดยน.ส.อัญชลี รอดไพบูลย์อายุ32เล่าว่าตนเองได้ขับรถออกมาจากถนนวัดพิมพาวาสเพื่อทะลุไปถนนเส้นบางนา-ตราดจากนั้นตนก็ได้ขับรถไปตามปกติอยู่ถนนเลนซ้ายพอขับไปสักพักและขับรถอยู่ในเลนของตัวเองฝั่งซ้ายมือจากนั้นก็มี10ล้อพุ่งออกจากเลนกลางปาดหน้าตนเองอย่างกระชั้นชิดหลังจากนั้นตนก็เบรครถแล้ว10ล้อคันดังกล่าวก็เปิดประตูรถลงมาหาเรื่องด่าทอตนเท่าที่สังเกตคนขับรถ10ล้อคันดังกล่าวน่าจะมีอาการมึนเมาเพราะดูจากสีหน้าท่าทางแล้วน่าจะมีอาการเมาแน่นอนแต่ก็ไม่ได้เข้ามาทำร้ายอะไรตนเพื่อความปลอดภัยพรุ่งนี้เช้าตนเองจะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.บางปะกงเพื่อป้องกันคนขับ10ล้อคันดังกล่าวจะไปก่อเหตุซ้ำซ้อนกับคนอื่นอีก
ทางด้านร.ต.ท.ณัฐพงศ์ใจกว้างรองสว.(สอบสวน)สภ.แสนภูดาษได้รับแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุของสภ.แสนภูดาษแล้วและจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา