ถือเป็นประเด็นสำคัญระดับชาติ กับสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เริ่มต้นด้วยการกำหนดทีโออาร์ และรฟม.เปิดขายซองประกวดราคาไปแล้ว แต่กลายเป็นว่าคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 กลับใช้วิธีการพลิกแพลง อ้างถึงอำนาจตามกฎหมาย ดำเนินการรื้อ แปลง เงื่อนไขการประมูล หรือ ทีโออาร์ จนกระทั่งนำไปสู่การฟ้องร้องศาลปกครอง โดย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ “BTSC” ในฐานะผู้เสียหายจากการรื้อ แก้ไข ทีโออาร์ ดังกล่าว
และ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ศาลมีคำวินิจฉัยเห็นว่า การแก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมจากครั้งที่ 1 โดยใช้การประเมินซองที่ 2 และซองที่ 3 รวมกัน โดยแบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนซองที่ 2 จำนวน 30 คะแนน และคะแนนซองที่ 3 จำนวน 70 คะแนนนั้นเป็น “คำสั่งทางปกครองทั่วไปที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”
รวมถึงล่าสุด การที่คณะผู้บริหาร BTSC แสดงเอกสารหลักฐานอย่างชัดเจน เกี่ยวกับข้อเสนอที่ยื่นต่อรฟม. รวมถึง คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 จากการเข้าร่วมประมูลครั้งที่ 1 ยืนยันข้อเปรียบเทียบ ตัวเลขการขอรับเงินสนับสนุนค่างานโยธา และ ตัวเลขการจ่ายเงินตอบแทนให้แก่ รฟม. หักลบแล้วมีตัวเลขยอดเงิน ขอสนับสนุนจากภาครัฐ เพียง 9,675.42 ล้านบาท ต่ำกว่าอีก 2 บริษัทที่มี่ชื่อผ่านการคัดเลือก ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จากการประมูลครั้งที่ 2 เกือบ 10 เท่าตัว ยิ่งทำให้ปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งล่าช้ามากว่า 2 ปี ยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับความไม่โปร่งใส และไม่เป็นธรรม ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ยืนยันกับ TOPNEWS ว่า ข้อเสนอที่ BTSC ยื่นเสนอขอรับเงินสนับสนุนภาครัฐ ในจำนวนกว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าบริษัทเอกชนรายอื่น ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ชนะการประมูลครั้งที่ 2 หลายเท่าตัว สามารถทำได้จริง เพราะหากทำไม่ได้ BTSC คงไม่ยื่นข้อเสนอด้วยตัวเลขนั้น
อีกทั้งการขั้นตอนการพิจารณา BTSC จะต้องมี หลักประกันซอง (Bid Bond) และ หนังสือค้ำประกันสัญญา (Performance Bond) จากสถาบันการเงิน ในการค้ำประกัน ไม่นับรวมองค์ประกอบสำคัญ ว่าด้วย โครงสร้างบริษัท ที่มี บีทีเอส โฮลดิ้งส์ อยู่ในฐานะบริษัทแม่ บริษัท สเตคอน ( บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น) และ BTSC ร่วมกันรับผิดชอบ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำไม่ได้ อีกทั้ง BTSC ได้ทำรถไฟฟ้ามาหลายสายแล้ว และที่ผ่านมาการประมูลโครงการอื่นๆ ที่เสนอตัวเลขต่ำกว่าราคากลาง ก็ทำสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหา และปัจจุบันยังสามารถดำเนินการอยู่
ส่วนการเสนอต่ำกว่า ราคากลาง เพราะเรามั่นใจว่า กลุ่มบริษัทสามารถทำได้ อีกทั้ง BTS เป็นบริษัทที่จะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงไม่สามารถเสนอราคาที่ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างแน่นอน
และจากองค์ประกอบปัญหาหลัก ๆ ที่เกิดขึ้น TOP NEWS ขอรวบรวมรายละเอียดในแง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มอีกครั้ง เพื่อย้ำให้เห็นร่องรอยปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนความสูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล ไม่นับรวมผลประโยชน์ ด้านคุณภาพชีวิต ประชาชน ผู้เสียภาษีให้กับประเทศ ต้องสูญเสียไปกับ การบริหารจัดการ โครงการรถไฟฟ้าสีส้ม ของรฟม.