จากกรณี วันนี้ 20 กันยายน 2565 เวลา 14.00 น. คนร้ายสวมชุดส่งอาหารก่อเหตุ ชิงเงินสดจำนวน 3 ล้าน 4 แสน 6 หมื่นบาท ภายในซอยราษฎร์อุทิศ ด้านหลังธนาคารไทยพานิชย์ เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถตู้สีขาว ยี่ห้อนิสสัน รุ่นเออแวน หมายเลขทะเบียน 40-1193 ชลบุรี จอดอยู่ริมถนนใกล้เคียงกับร้านหอยทอด ส่วนผู้เสียหาย คือ นางสาวประภาพร บุญมีสนม อายุ 29 ปี ที่เป็นผู้เบิกเงินกับธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านบึง เพื่อเอาไปจ่ายค่าแรงให้กับพนักงาน โดยจะมาเบิกทุกวันที่ 5 และวันที่ 20 ของเดือน โดยมีนายกฤษชภัชร์ สุรกุล อายุ 24 ปี เป็นคนขับ ได้จอดรถเอาไว้ที่จุดเกิดเหตุแล้วเดินเข้าไปเบิกเงินจำนวนเงิน 3,500,000 บาท ได้นายกฤษชภัชร์ สุรกุล อายุ 24 ปี คนขับรถตู้ เป็นผู้ถือเป้กระเป๋าเงิน ที่มีเงินจำนวน จำนวน 3 ล้าน 4 แสน 6 หมื่นบาท ไปวางในรถ และมีผู้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว
ตร.เร่งสางปมไรเดอร์ชิงเงิน 3 ล้าน ตั้งข้อสงสัยหลายประเด็น พบยังให้การมีพิรุธ
ข่าวที่น่าสนใจ
ต่อมามีภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณริมถนนใกล้จุดเกิดเหตุ ได้จับภาพ คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดริมถนน มีท่าทีพิรุธ จอดดูเหยื่อที่บริเวณด้านหน้าของธนาคาร จำนวน 3 รอบ หลังจากนั้นก็ขี่รถไปด้านหลังธนาคาร หลังก่อเหตุก็ได้ขับไปเส้นทางหลังเทศบาลและออกไปทางซอยเซิดน้อยเหมือนเดิม ไปทางเส้นตำบลมาบไผ่ เพื่อทะลุพานทองและเมืองชลบุรี ซึ่งตรงกับรูปร่างที่ชาวบ้านพบเห็น และบอกเล่า
ขณะที่ทางพลตำรวจตรี อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง สืบสวนจังหวัด และสืบสวนภาค2 โดยได้เน้นแยกสอบตนขับรถ กับพนักงานคนที่เบิกเงิน และได้เชิญผู้จัดการบริษัทและพนักงานด้านการเงินมาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความสงสัยในประเด็นบางส่วน พร้อมมีการ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งกันสืบสวน ในหลายๆ ประเด็น ซึ่งคาดว่าคงไม่พ้นฝีมือตำรวจ อยากที่จะฝากถึงบริษัทร้านค้าว่า หากมีการมาเบิกเงินครั้งละมากๆ ควรที่จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มคอยอำนวยความสะดวกและป้องกันเหตุ ซึ่งในคดีนี้ขอเวลาเจ้าหน้าที่ ที่คาดว่าน่าใช้เวลาไม่นาน ก็จะได้รูตัวคนร้าย ที่เกี่ยวกับคดีนี้ นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุดตำรวจพิสูจน์หลักฐานภาค 2 ได้ลงมาตรวจเก็บรอบยนิ้วมือ และหลักฐานต่างๆ บริเวณรอบรถและในรถ ตามคำกล่าวอ้างของพนักงานทั้งสอง ให้การก่อนหน้านี้ ว่ากระเป๋าเงิน วางไว้ตรงกลางระหว่าเกียร์
ส่วนบรรยากาศที่ สภ.บ้านบึง ทางพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน ได้แยกสอบทั้งนายกฤษชภัชร์ และนางสาวประภาพร อย่างละเอียด โดยเฉพาะนางสาวประภาพร ทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนโดยไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพูดคุย เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีข้อสงสัยในหลายประเด็น ที่พนักงานทั้งสองยังคงให้การอันเป็นพิรุธ จากการสอบถามนายกฤษชภัชร์ ได้เปิดเผยว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด ไม่มีส่วนรู้เห็นกับคนร้าย ส่วนที่้ถามว่า ทำไมถึงไม่ต่อสู้กับคนร้าย นายกฤษชภัชร์ บอกว่า ตนสู้โดยได้ถีบคนร้ายไป 1 ครั้ง ก่อนจะโดนทั้งต่อยและปืนตบอย่างที่เห็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง