“ธ.ไทยพาณิชย์” ชี้แจงกรณีลูกค้าถูกมิจฉาชีพ หลอกลวงขอข้อมูล แนะวิธีป้องกัน

"ธ.ไทยพาณิชย์" ชี้แจงกรณีลูกค้าถูกมิจฉาชีพ หลอกลวงขอข้อมูล แนะวิธีป้องกัน

วันนี้(21 ก.ย.65) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าว กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรแจ้งเรื่องค้างภาษี พร้อมส่งลิงก์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ของลูกค้า อ้างว่าเป็นเว็บไซต์จากกรมสรรพากรให้กับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์รายหนึ่ง โดยมิจฉาชีพได้พูดคุยหลอกลวง จนลูกค้าหลงเชื่อ ติดตั้งโปรแกรม ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการถอนเงินออกจากบัญชี จากนั้นปรากฏข้อความเงินถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารมิได้นิ่งนอนใจและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีหลักฐานในการติดตามจับกุม กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบว่า การถอนเงินจากบัญชีมิได้เกิดขึ้น จากความผิดปกติของระบบธนาคาร แต่เป็นลักษณะของการทุจริตในรูปแบบ Phishing และอยู่นอกเหนือจากความรับผิดชอบของธนาคาร

ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ปัจจุบัน มีมิจฉาชีพพยายามหลอกลวงขอข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าของสถาบันการเงินหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อด้วยการให้ข้อมูลส่วนตัว รวมถึงรหัสต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารฯ ได้สื่อสารข้อความการเตือนภัยแก่ลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารฯ เช่น เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์, ไลน์ และ Tiktok : SCB Thailand รวมถึงผ่านสื่อ ATM และสาขาของธนาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการทําธุรกรรม และขอเรียนว่า ธนาคารฯ ไม่มีนโยบายในการส่งข้อความผ่านทาง SMS, อีเมล, LINE หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสของลูกค้าต่างๆ แต่อย่างใด

ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อบัญชีของลูกค้า ธนาคารฯ มีข้อแนะนำวิธีการสังเกต และการป้องกันเบื้องต้นในการใช้โทรศัพท์เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ดังนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

วิธีการสังเกต
1. พฤติกรรมของผู้ทุจริต จะทำการติดต่อสอบถามลูกค้าโดยมีข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าหลงเชื่อว่ามีการติดต่อมาจากองค์กรที่แอบอ้างจริง โดยจะแจ้งรายละเอียดต่างๆ ของลูกค้าได้ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อร้านค้าที่ลูกค้าร่วมนโยบายกับรัฐ เลขภาษี ฯลฯ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ
2. ผู้ทุจริตจะหว่านล้อมโดยการขอเพิ่มเพื่อนในไลน์ เพื่อทำการพิมพ์พูดคุยหลอกลวง และทำการส่งลิงก์ข้อความให้เข้าหน้าเว็บไซต์ โดยจะหลอกให้หลงเชื่อแล้วกดลิงก์ที่อยู่เว็บไซต์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ปลอม (Phishing) เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมการควบคุมระยะไกล หลังจากที่ลูกค้าได้ทำการติดตั้งโปรแกรมควบคุมระยะไกลแล้ว ผู้ทุจริตจะทำการส่ง Code PIN เพื่อให้ลูกค้าแจ้งเลข เพื่อใช้ Code ดังกล่าวในการเข้าควบคุมเครื่อง ซึ่งหากลูกค้าไม่ได้ทำการแชร์หน้าจอบนไลน์ ก็อาจจะหลอกถามชุดตัวเลขเพื่อนำไปใช้เพื่อการควบคุมต่อไป
3. ผู้ทุจริตอาจจะขอแชร์หน้าจอโทรศัพท์ เพื่อแชร์หน้าจอจากวีดีโอคอล (Streaming) โดยจะเห็นหน้าจอและขโมย PIN ลูกค้าในการเข้าแอปพลิเคชันธนาคาร และจะหลอกให้ลูกค้าเปิดแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ทุจริตจะสามารถเห็นได้ว่าลูกค้าเข้าแอปพลิเคชันแล้ว โดยจะหลอกให้ลูกค้าเข้าไปยังหน้าที่ต้องมีการกด PIN 6 หลัก เพื่อให้ผู้ทุจริตสามารถควบคุมเข้าใช้งานแอปพลิเคชันแทนลูกค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องระบุ PIN เอง

วิธีป้องกันตัวเองเบื้องต้น
1. โดยปกติหน่วยงานรัฐและเอกชนจะไม่ทำการติดต่อลูกค้าโดยตรงผ่านการส่งข้อความหรือเพิ่มเพื่อนในไลน์เพื่อส่งลิงก์เว็บไซต์ให้กับลูกค้า ทั้งนี้ หากลูกค้าได้รับการติดต่อและเกิดความไม่แน่ใจ ควรระงับการติดต่อจากช่องทางดังกล่าว และติดต่อกลับไปยังเบอร์กลางของหน่วยงานโดยตรงเพื่อทำการสอบถามข้อเท็จจริง
2. ไม่ควรทำการแชร์หน้าจอจากวีดีโอคอล (Streaming) ของตัวเอง และหลังจาก Streaming ไม่ควรเปิดแอปพลิเคชันของธนาคารให้ฝั่งตรงข้ามเห็น หรือหากไม่ทราบเรื่องการ Streaming ไม่ควรเปิดแอปพลิเคชันของธนาคารในระหว่างพูดคุย หากมีการติดต่อจากบุคคลที่เราไม่รู้จัก ไม่ควรให้มีการแชร์หน้าจอโทรศัพท์ และรวมไปถึงการเปิดแอปพลิเคชันของธนาคารในระหว่างการพูดคุยเช่นกัน
3. หากพบว่าหลงเชื่อจนเป็นเหตุให้ถูกควบคุมเครื่อง เช่น มีรหัสขึ้น และ/หรือ มีข้อความว่ากำลังตรวจสอบและห้ามใช้โทรศัพท์ หรือ หน้าจอค้าง หรือ หน้าจอเป็นภาพดำ ควบคุมเครื่องไม่ได้ ให้ปิดเครื่องโทรศัพท์ในทันทีเพื่อทำการตัดการเชื่อมต่อเครื่องกับผู้ทุจริต และติดต่อทางธนาคารเพื่อให้ทำการระงับการใช้แอปพลิเคชันของธนาคารนั้นๆ โดยทันที

ธนาคารขอให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในระบบของธนาคารที่มีการป้องกันความปลอดภัยในระดับสูงที่ได้มาตรฐานสากล การหลอกลวงของมิจฉาชีพนั้นมีหลากหลายวิธี ขอให้ลูกค้าโปรดระมัดระวังและติดตามข่าวสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร รวมถึงแนวทางการป้องกันตัวเองอย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถาม ขอคำแนะนำมายังธนาคารได้ตลอดเวลาที่ SCB Call Center โทร.02 7777777

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น