“เพื่อไทย” ประกาศส่ง “ชัยเกษม” ชิงเก้าอี้นายกฯ หาก “บิ๊กตู่” ไม่ได้ไปต่อ

“เพื่อไทย” ประกาศส่ง “ชัยเกษม” ชิงเก้าอี้นายกฯ หาก “บิ๊กตู่” ไม่ได้ไปต่อ

วันนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชี้ขาดวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 30 กันยายนว่า หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ต้องดูสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น ก่อนที่จะมองว่าพรรคเพื่อไทยจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อไป แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ โดยพรรคจะส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค คือ นายชัยเกษม นิติศิริ ซึ่งยังคงเป็นผู้ที่ทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน แม้ในตามบัญชีจะมีอยู่ 3 รายชื่อ แต่บางคนได้แยกออกไปทำงานการเมืองนอกพรรคแล้ว ดังนั้นบัญชีนายกฯของพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็เหลืออยู่เพียงคนเดียว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนข้อสังเกตทางการเมืองว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อาจเป็นนายกฯ คนนอกนั้นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขั้นตอนของสภาจะเลือกได้หรือไม่ หากจะเสนอรายชื่อนายกฯคนนอกต้องใช้เสียงของรัฐสภาเห็นชอบ 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกรัฐสภาหรือ 488 คน ซึ่งจะมีปัญหาในการเลือกไม่ได้ เพราะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีในบัญชีก่อน และพรรคภูมิใจไทยยังมีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หากพรรคร่วมรัฐบาลร่วมมือกันนายอนุทิน มีโอกาสที่เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงที่ไม่น้อยกว่า 365 คน แต่ทั้งนี้ก็คาดการณ์ว่า ชื่อนายกรัฐมนตรีในบัญชีที่มีอยู่จะไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา อาจต้องเลือกนายกฯนอกบัญชีพรรคการเมือง เพื่อแก้ปัญหาไม่เกิดเดตล็อกทางการเมืองในการบริหารประเทศ แต่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับนายกฯคนนอก

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ท้ายที่สุดไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร จะเป็นพลเอกประวิตร ขั้วการเมืองจะไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่มีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านเป็นห่วงมาตลอด หากผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พลเอกประยุทธ์ยังไม่พ้นจากตำแหน่ง และยังสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก ไม่ว่าจะ 2 ปี หรือ 4 ปี สถานการณ์ทางการเมืองทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า การอยู่ยาวคือการผูกขาดอำนาจ ยิ่งมีอำนาจมากก็ยิ่งเกิดปัญหาคอรัปชั่นมาก หากพลเอกประยุทธ์อยู่ต่อโดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน กังวลว่าจะเกิดวิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง แต่หากพลเอกประยุทธ์ได้อยู่ต่อแล้วประกาศว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 3 เดือนแล้วยุบสภา จะลดแรงต้านหรือการเกิดวิกฤตทางการเมืองได้ แต่หากอยู่ต่ออีก 2 ปีหรืออีก 4 ปี กระแสต่อต้านจะลุกลามมาก ซึ่งกระแสต่อต้านมีการแสดงออกหลายรูปแบบไม่เพียงแค่การชุมนุมลงถนนเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น