“สนธิญา สวัสดี”ร้องทุกข์กล่าวโทษ หน.พรรคก้าวไกล ไม่สวมแมสก์

"สนธิญา สวัสดี"ร้องทุกข์กล่าวโทษ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่สวมหน้ากากอนามัยในบางช่วง ระหว่างการนั่งฟังคำชี้แจงในห้องกรรมาธิการร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ระบุเป็นการกระทำที่ผิดต่อประกาศคำสั่ง กรุงเทพมหานคร

หลังจากสังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปวีดีโอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่สวมหน้ากากอนามัยในบางช่วง ระหว่างการนั่งฟังคำชี้แจงในห้องกรรมาธิการร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ส.ส.ในพรรค คือ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เพิ่งติดเชื้อโควิดไป ทำให้ส.ส.ในพรรคก้าวไกลหลายคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องไปตรวจหาเชื้อโควิด

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่สถานีตำรวจนครบาลบางโพ นายสนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้าพบ ร.ต.ท.ชัชวาลย์ นิยมชาติ รองสารวัตร( สอบสวน ) สน.บางโพ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการทำผิดคำสั่งกรุงเทพมหานคร ในการไม่สวมหน้ากากอนามัยในที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายขณะ นายพิธา ไม่สวมหน้ากากอนามัยมามอบให้พนักงานสอบสวน

นาย สนธิญา กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความร้องทุกข์ ให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ กรณีที่นายพิธา ได้ถอดหน้ากากอนามัยออกในระหว่างประชุมคณะกรรมมาธิการงบประมาณ ปี 2565 ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อประกาศคำสั่ง กรุงเทพมหานคร ที่ประกาศเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2564 เรื่องให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยถูกปรับมาแล้ว แต่จะให้ตนบอกว่าเป็นการกระทำผิดแล้วหรือยังนั้น ตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จึงต้องมาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่ามีถอดหน้ากากอนามัยจริงหรือไม่ และมีความจำเป็นแค่ไหน เพื่อมิให้เป็นตัวอย่างกับพี่น้องประชาชนต่อไป หรือให้เป็นบรรทัดฐานทางเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีที่เคยถูกปรับ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามที่ถูกร้องหรือไม่ พร้อมทั้งจะเชิญผู้ถูกร้องมาสอบปากคำหากพบมีการกระทำผิดจริง ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”
KIA-PDF ตีวงล้อมพม่า! ทอ.โผล่ช่วย แต่ยิงพลาดเป้า-สอยร่วงพวกเดียวกัน
จังหวัดฉะเชิงเทราปล่อยปลากะพงขาวเสริมทัพ คุมปลาหมอคางดำต่อเนื่อง ชูกินได้-อร่อยด้วย
ห้าดาว คว้า 3 รางวัลใหญ่ 'แฟรนไชส์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2024' พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการสู่ธุรกิจมั่นคง
ปลาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำญี่ปุ่นล้มป่วยเพราะเหงา
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการน้ำบาดาลระยะไกล แก้ปัญหาพื้นที่ขาดแคลนน้ำให้แก่ประชาชน ต.นาข่า จ.อุดรธานี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น