วันที่19 ก.ค. 2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าแซงอัลฟาแล้วอย่างสิ้นเชิง ส่วนเบต้าอยู่ในจังหวัดชายแดนใต้เป็นส่วนใหญ่ แนวโน้มในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการตรวจประชาชนใน 3,340 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่าเป็นการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า63% อัลฟา34% เบต้า3.3% ส่วนในพื้นที่ กทม. พบการแพร่ระบาดของเชื้อเดลต้ามากถึง 77% อัลฟา 23.5% และขณะนี้แพร่ระบาดของเชื้อครอบคลุมไปถึง 72 จังหวัด ( 71จังหวัด +กทม.) เหลือ เพียง 4-5 จังหวัดเท่านั้น ที่ยังไม่พบการระบาด ดังนั้น คำตอบของการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นก็มาจาก สายพันธุ์เดลต้าเพราะคุณสมบัติติดง่าย แต่อัตราป่วยตายยังไม่มากเท่าไหร่ แต่หากปล่อยให้เชื้อแพร่ กระจายไปมาก คนอาจล้นโรงพยาบาลและพบคนป่วยเสียชีวิตมากขึ้น ส่วนจังหวัดที่เดิมยังไม่พบเคยพบการระบาดของเดลต้าก็กลับมาพบ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน 3 คน กาญจนบุรี 1คน สมุทรสงคราม 4 คน ฉะเชิงเทรา 20คน ตราด 2 คน สุรินทร์ 28 คน ชุมพร 1 คน นครศรีธรรมราช2 คน กระบี่ 2 คน พังงา 1 คน และปัตตานี 2 คน
นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า ส่วนสายพันธุ์เบต้ายังพบในพื้นที่ภาคใต้อยู่เป็นส่วนใหญ่และที่เดิมสัปดาห์ก่อนมีการแถลงพบหนุ่มบึงกาฬ ที่ไปเป็นแรงงานไต้หวันกลับมาไทย พบการติดเชื้อเบต้า จากการตรวจค้นหาเชิงรุก พบในครอบครัวมีการติดเชื้อเพิ่ม 3 คน ทำให้ในจังหวัดบึงกาฬพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วรวม 4 คน จากการตรวจสอบไม่สามารถระบุได้ว่ามีการติดเชื้อมาจากที่ใด ส่วนการติดเชื้อเบต้าใน กทม. ยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม จึงพบผู้ป่วยแค่ 2 คน ที่เป็นการติดเชื้อ จากลูกที่เดินทางกลับมาจากนราธิวาสแล้วพบพ่อ ทำให้พ่อติดเชื้อเท่านั้น ทำให้การแพร่ระบาดใน กทม.อาจหยุดแค่นี้
ส่วนกรณีพบ 7 คนงานในแคมป์ก่อสร้างกทม. ติดเชื้อ แบบลูกผสม 2 สายพันธุ์ ทั้งเดลต้า และอัลฟา จากการติดตามพบว่า ทั้งหมดยังสบายดีไม่มีอาการรุนแรงแต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังต่อไปและยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่มในลักษณะแบบนี้ แต่การติดเชื้อที่มีจำนวนมากขึ้นย่อมมีโอกาสที่ไวรัสจะพัฒนาและกลายพันธุ์ได้