จากกรณีเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/2565” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-21 กันยายน 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ คำถามถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ โดยพบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ร้อยละ 24.16 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 21.60 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 10.56 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 10.12 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อันดับ 5 ร้อยละ 9.12 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย
ข่าวที่น่าสนใจ
จากผลโพลดังกล่าว แม้บุคคลที่มีคะแนนนำทั้งนางสาวแพทองธาร นายพิธา และพลเอกประยุทธ์ แต่หากลงลึกในรายละเอียดเปรียบเทียบกับผลสำรวจก่อนหน้านี้ของนิด้าโพลเอง กลับพบว่าทั้งสามคนมีคะแนนลดลง ส่วนผู้ที่ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนเพิ่มขึ้นได้แก่ คุณหญิงสุดารัตน์ โดยหากย้อนไปดูผลสำรวจหัวข้อคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2565 ซึ่งทำการสำรวจเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ครั้งนั้น นางสาวแพทองธาร มาเป็นอันดับ 1 ที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนร้อยละ 25.28 อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็นนายพิธา ส่วนพลเอกประยุทธ์มาเป็นอันดับ 4 ร้อยละ 11.68 ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์มาเป็นอันดับ 5 ด้วยคะแนนเพียงร้อยละ 6.80 แต่ผลสำรวจครั้งล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ได้คะแนนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9.12
ผลสำรวจของนิด้าโพลยังสอดคล้องกับผลสำรวจของอีสานโพล เมื่อวันที่ 10 กันยายน ซึ่งได้ทำการสอบถามประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด ในประเด็นว่าถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พบว่าอันดับ 1 เป็น คุณหญิงสุดารัตน์ ด้วยคะแนน ร้อยละ 23.4 รองลงมาเป็นนางสาวแพทองธาร ร้อยละ 21.1, อันดับ 3 นายพิธา ร้อยละ 20.2 ตามมาด้วยพลเอกประยุทธ์ ร้อยละ 12.5
คะแนนนิยมของคุณหญิงสุดารัตน์ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะประชาชนนั้นคุ้นเคยกับคุณหญิงสุดารัตน์มาแล้วตั้งแต่การเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ที่ครั้งนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ได้รับมอบหมายจากนายใหญ่ดูไบให้เป็นแม่ทัพพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้ง และโชว์ผลงานนำพรรคเพื่อไทยกวาดเก้าอี้ส.ส.ได้มากที่สุด แม้วันนี้คุณหญิงสุดารัตน์จะต้องระเห็จออกจากพรรคนายใหญ่ดูไบ แล้วไปตั้งพรรคใหม่พรรคไทยสร้างไทย แต่คุณหญิงสุดารัตน์ก็ยังมีฐานเสียงเดิมที่ยังคงชื่นชอบมาตั้งแต่อยู่พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน รวมถึงฐานเสียงจากส.ส.พรรคเพื่อไทยในเมืองหลวง ซึ่งเป็นเด็กในคาถาของคุณหญิง เช่น เก่ง การุณ โหสกุล ส.ส.ดอนเมือง และพร้อมจะย้ายไปอยู่ไทยสร้างไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย บวกกับการชูนโยบายผู้สูงอายุเดือนละ 3 พันบาท แม้จะเป็นนโยบายขายฝัน แต่ประชาชนเข้าใจง่าย ทำให้เป็นที่ถูกใจฐานเสียง จึงไม่ต้องแปลกใจในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า คุณหญิงสุดารัตน์และพรรคไทยสร้างไทย จะเป็นก้างขวางคอชิ้นโตดับฝันพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง