นับจาก 17 ส.ค.2565 วันที่หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยผู้จัดการคอกใหญ่ค่ายดูไบ พาพรรคพวกผู้แทนฝ่ายค้านลงชื่อ 171 คนยื่นใส่มือให้ชวน หลีกภัย ประมุขรัฐสภาส่งเรื่องให้ “9 อรหันต์” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความการดำรงตำแหน่งนายกฯไม่เกิน 8 ปีของ “บิ๊กตู่” พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม สิ้นสุดลงหรือไม่ หลังเห็นว่าเป็นนายกฯตั้งแต่ 24 ส.ค.2557 และครบวาระไปแล้วตั้งแต่ 23 ส.ค.2565 บวกลบคูณหารก็ 45 วันพอดีนับตั้งแต่วันเริ่มยื่นคำร้องจนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดคู่กรณีก็คือฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง มาฟังคำวินิจฉัยสรุปคดีในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย.2565 เวลาบ่ายสามโมงเย็น ขณะที่ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ก็ถูกแช่แข็งถูกเบรกการทำหน้าที่ไป 38 วันพอดิบพอดี
30 ก.ย.นี้จึงไม่ใช่แค่วันประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยที่ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ชะตาอนาคตผู้นำประเทศของไทยเท่านั้น หากแต่อาจเป็นวันเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะหากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็น “ลบ” เป็น “โทษ” กับพล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะถ้าตัดสินว่าพล.อ.ประยุทธ์พ้นความเป็นรัฐมนตรี เพราะเป็นนายกฯครบ 8 ปีตั้งแต่ 24 ส.ค.2557 แต่หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมตตาให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปต่อไม่ว่าจะสั้นหรือยาว 2 ปี หรือ 4 ปี ตรงนี้ก็ยังพอมีทางให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้โดยไม่ลำบากและวุ่นวาย แต่ถ้าจับผลัดจับผลูผลคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 อรหันต์ออกมาให้พล.อ.ประยุทธ์สิ้นสุดความเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 และ มาตรา 158 วรรค 4 ประเทศจะกลับมาวุ่นวายแน่
อย่าลืมว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหอกที่สำคัญในการปกป้องสถาบันและดูแลประเทศชาติมานาน 8 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าบ้านเมืองสงบสุข ไร้ความวุ่นวาย แม้จะมีความพยายามจากคนชั่วช้าสามานย์ปลุกระดมวัยรุ่นยั่วยุคนเห็นต่างให้ออกมาก่อเหตุปั่นบ้านป่วนเมืองในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา แต่สุดท้ายคนพวกนี้ก็แพ้ภัยตัวเองและต้องยุติการทำความชั่วไปในที่สุด เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่หนุนหลังไม่เอาด้วย ที่สำคัญสุดคือตลอดระยะเวลาการทำหน้าที่นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ดูแลบ้านเมืองไม่ให้มีการยั่วยุใส่ร้ายโจมตีสถาบัน การปกป้องเสาหลักที่เป็นสถาบันสูงสุดของชาติอย่างเข้มข้นเข้มแข็งกลายเป็น “จุดแข็ง” ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถกร่อนเซาะบ่อนทำลายสถาบันที่คนไทยรักลงไปได้ แม้จะมีหลุดรอดไปทางโซเชี่ยลมีเดียส์หรือมีไปทำกิจกรรมโจมตีสถาบันหลงไปบ้างแต่ก็ลดน้อยถอยลงไปมาก
ขณะที่ฝากฝั่งทักษิณมองประยุทธ์เป็นศัตรูตัวฉกาจเช่นเดียวกับก๊วนล้มเจ้าก็มองว่าบิ๊กตู่เป็นแม่ทัพเอกพิทักษ์ราชบัลลังก์เขี่ยบิ๊กตู่ไปไกลๆ ให้กลับไปอยู่บ้านได้ยิ่งดี แผนชั่วเรื่องอุบาทว์ที่คิดอ่านวางแผนการณ์ไว้ จะได้ทำแบบง่ายๆคล่องๆ ไม่มีใครมาเป็นก้างขวางคอ เพราะฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่ฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามฝ่ายทักษิณพวกชังชาติก๊วนล้มเจ้า พยายามอย่างที่ยิ่งยวดที่จะล้มที่จะคว่ำพล.อ.ประยุทธ์ลงให้ได้ และคราวนี้ก็ใหล้เคียงความจริงมากที่สุดในการที่จะล้มพล.อ.ประยุทธ์ไล่บิ๊กตู่ออกจากอำนาจลงให้ได้ เพราะฉะนั้น 30 ก.ย.นี้จึงไม่ใช่แค่การ “อยู่” หรือ “ไป” ของพล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น แต่มันผูกโยงหมายรวมถึงการปกป้องชาติและดูแลสถาบันเกี่ยวข้องกันไปหมดหากพล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่หรือหลุดพ้นไป
จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาทอดยาวที่ต้องรอฟังคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นหมอชลน่านและบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างก็พยายามออกมาให้ข่าวในลักษณะกดดันศาลในทำนองว่าหากตัดสินเป็นคุณเป็นบวกกับพล.อ.ประยุทธ์โดยเฉพาะถ้าออกมาว่านับการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ตั้งแต่ 6 เม.ย. 2560 หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ หรือนับจาก 9 มิ.ย.2562 ในช่วงที่เป็นนายกฯสมัยสอง เชื่อว่าจะมีคนไทยจำนวนมากไม่ทนและลุกฮือออกมาต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์แน่ ขณะที่ “เจ๊เจี๊ยบ” อมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.ก้าวไกลก็ออกมาขู่จะลงถนน โดยโพสต์เฟซบุ๊คความว่า “ ถึงรมต.อีเดียตกระทรวงดีอี ถ้าหวยออกมาว่าเริ่มปี 62 กูออกจากสภามานำเองเลย SUS” ชัดเจนว่าส.ส.ฝ่ายค้านเป็นฝ่ายยื่นคำร้องให้วินิจฉัยเรื่องนี้ต่อศาลเอง แต่ฝ่ายตัวเองกลับไม่เคารพกติกาไม่เห็นหัวศาลเพราะออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นปาวๆๆๆ กดดันให้ศาลวินิจฉัยออกมาตามธงของตัวเอง เป้าหมายปลายทางมีอย่างเดียวให้พล.อ.ประยุทธ์สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีไม่สามารถกลับมาสู่ถนนแห่งอำนาจและการเมืองได้อีก
อีกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวกดดันศาลแบบหนักหน่วงก็คือ คณะหลอมรวมประชาชน ภายใต้การนำของ “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ กับ “ทนายนกเขา” นิติธร ล้ำเหลือ ที่ออกมาจัดกิจกรรมรุกไล่พล.อ.ประยุทธ์แบบถี่ๆ นับตั้งแต่ติดบ่วงเรื่องนี้พร้อมประกาศจัดชุมนุมในวันพิพากษา 30 ก.ย. เวลา 17.00 น. ที่แยกราชประสงค์ลุ้นชะตาอนาคตพล.อ.ประยุทธ์ วานนี้จัดเสวนา “นับหนึ่งประเทศไทย ด้วยอธิปไตยของปวงชน หลัง 30 กันยายน” เชิญ พิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) และคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิตปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ สาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) ร่วมเสวนา พิภพดูจะเป็นคนที่ออกมาอัดบิ๊กตู่แรงสุด ทั้งการตั้งคำถาม เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งได้ 8 ปี ทำไมประยุทธ์ไม่รู้ ถ้าเป็นชายชาติทหาร เป็นนักการเมืองที่ดี ต้องประกาศลาออกวันนี้เลย ” วันที่ 30 ก.ย. ขอเตือนศาลรัฐธรรมนูญ อย่าทำเหมือนตอนคดีซุกหุ้นนายทักษิณ กระบวนการยุติธรรม ทำให้เกิดปัญหา ทำให้นักการเมืองเป็นนักการเมืองเลวหรือดี อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม ขอให้ศาลดำรงความยุติธรรม รู้ว่าเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมาจากประยุทธ์ด้วย ไม่อย่างนั้นจะให้นายมีชัยเขียนเรื่อง 8 ปีได้อย่างไร …ที่คุณประยุทธ์พยายามทำคือ ให้ 3 ป.สามัคคีกันไว้ แตกกันไม่ได้ โดย 3 ป. ก็มีตัวอย่างมาแล้วกับ 3 ทรราช ถนอม ประภาส ณรงค์ ขอเตือน 3 ป. ต้องหยุดด้วย เชื่อว่าประเทศไทยยังมีทางออก” พิภพอดีตแกนนำพันธมิตรอัดบิ๊กตู่พาลไปถึง 3 ป. ฝ่ายนิติธรก็ออกมาซำดาบสองปลุกคนให้ลุกฮือมาไล่พล.อ.ประยุทธ์ “ สิ่งที่ประชาชนโกรธแค้นมาตลอด 9 ปี วันที่ 30 ก.ย.พี่น้องประชาชนต้องออกมาระบายความโกรธแค้นทั้งหมด แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งประเทศไทย” ฝ่ายเกลียดฝ่ายไม่ชอบบิ๊กตู่ออกมาสหบาทากันยกใหญ่ ได้ทีขี่แพะไล่ในช่วงบิ๊กตู่กำลังลุ้นพะวงกับคำตัดสินใจของศาล เล่นกันจนเพลินจน “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลต้องออกมาเบรกกันดังๆ ป่วนมากวุ่นวายมากม็อบกันมากๆ ระวังจะไม่มีเลือกตั้ง ประโยคเดียวดินกันพราดๆเหมือนปลาหมอถูกทุบหัว
ในบรรดาคนที่ออกมารุกไล่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นชลน่านก็พอเข้าใจได้เพราะเป็นลูกไล่เป็นเบี้ยในกระดานของทักษิณยังไงก็ต้องทำเต็มที่ เพราะนายใหญ่กำลังจะสั่งลูกสาวที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงมาชิงนายกฯ ฝ่ายเจ๊เจี๊ยบเตี้ยหลังม็อบออกมาโพสต์แบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะรู้เช่นเห็นชาติทราบนิสัยและสันดานอยู่แล้ว เพราะรู้กันอยู่ว่าชังชาติและเกลียดสถาบันแบบที่หลายคนเห็นก็สมเพช ฝ่ายทนายนกเขาไปเข้ากับจตุพรก็รู้กันอยู่ว่าขออะไรจากบิ๊กตู่ก็ไม่เคยได้ อยากให้นิรโทษช่วยให้หลุดพ้นคดีก็ไม่ยอมทำให้ก็เลยด่าบิ๊กตู่ไม่หยุด แต่กับพิภพอดีตเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย เคยต่อสู้กับฝ่ายทักษิณมาก็เยอะ “ชั่วดีถี่ห่าง” เป็นอย่างไรทำไมแยกแยะไม่ออก ออกมากดดันศาลแซะฝ่ายตุลาการแต่หัววัน ถามกลับกันว่า “สติ” กับ “อุดมการณ์” ที่เคยได้รับคำชื่นชมในอดีตตอนนี้หายไปไหน ไม่รู้เหรอพล.อ.ประยุทธ์อยู่ปกป้องใคร ไม่ทราบเหรอว่าประเทศชาติมีเรื่องใหญ่โตแค่ไหนรอให้บิ๊กตู่ดำเนินการสานต่อ เอเปคผู้นำโลกจะมาไม่กี่เดือน เลือกตั้งต่อแถวรอคิวอยู่ตรงหน้า ใครจะรับผิดชอบดูแล การเมือง อำนาจ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงจังหวะ เวลา ที่เหมาะสมพล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องไป ผลวินิจฉัยของศาลก็ยังไม่ออก จะมาตีกินทุรนทุรายร้องแรกแหกกระเชอไปไย ศาลรัฐธรรมนูญชุดแม้วกับชุดนี้เหมือนกันไหม ทักษิณกับพล.อ.ประยุทธ์เอามาเปรียบเทียบกันได้หรือ คิดอะไรอยู่ถึงออกมาเป็นแนวร่วมฝ่ายแม้วไล่อัดบิ๊กตู่บริภาษศาลแซะกระบวนการยุติธรรมถึงเพียงนี้
//////////////////////