นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายจตุพร พรหมพันธ์ุ ประธานนปช. พูดถึงนายกฯในวงสัมนา “ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย” ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง กปปส.ถูกนายกฯหลอกสร้างความปรองดอง พร้อมนัดหารือเพื่อหาทางไล่รัฐบาล โดยยืนยันว่านายกฯเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งประเทศก็ได้รับการแก้ไขปัญหา พัฒนาประเทศไปหลายอย่างแล้ว
ทั้งนี้นายกฯไม่เคยทำสิ่งใดให้ประเทศเกิดความขัดแย้ง และยังเดินหน้าที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ แต่มีคนที่เห็นต่างจากนายกฯ คนที่ไม่ชอบนายกฯ ที่ชอบหาเรื่องเพื่ออยากจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นเอง ทั้งนี้หากนายจตุพรจะถามหาความปรองดอง นายจตุพรก็ต้องให้ความร่วมมือกับนายกฯ กับรัฐบาล เพราะความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมถึงนายจตุพรและพวกด้วยมิใช่หรือ
นายเสกสกล ระบุว่า ในอดีตนายจตุพรก็เห็นแล้วว่าการประท้วง การเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ได้เป็นผลดีต่อบ้านเมืองเลย เหตุใดนายจตุพรถึงอยากให้ประเทศกลับไปเป็นเช่นเดิมอีกในเมื่อประเทศกำลังเดินไปข้างหน้า และหากนายจตุพร จะออกมาเคลื่อนไหวอีกตนเองก็กลัวว่าจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ ของผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวล้มสถาบันอยู่ในขณะนี้ และสุดท้ายการเคลื่อนไหวของกลุ่มนายจตุพรก็จะกลายเป็นการเคลื่อนไหวล้มสถาบันแทน
“ขณะนี้ นายจตุพร กำลังหูเบาหลงทาง ถูกชักจูงจมูกโดยกลุ่มทุนม็อบสามนิ้วที่กำลังวางแผนล้มล้างสถาบัน และคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปสู่การปกครองแบบอื่นที่คนรักสถาบันรู้ดีว่าในเป้าหมายของม็อบสามนิ้ว นายจตุพรไม่รู้จักเข็ดหลาบเดินการเมืองผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ตนก็เตือนด้วยความหวังดี แม้แต่คนสนิทใกล้ชิดที่สุดอย่าง สส.อารีย์ ไกรนรา พรรคเพื่อชาติและนายแรมโบ้คนนี้ ที่ถือว่าผูกพันคบกันมายาวนานเกือบ 40 ปีเรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ม.รามคำแหง ตักเตือนด้วยความหวังดีห่วงใย แต่ก็ยังดื้อรั้นเอาแต่ใจ ไม่ยอมรับฟัง ตนชักสงสัยว่าทำไมหูเบาตามืดตามัว ไปฟังใครเป่าหูมา คิดไม่เป็นหรือไรว่า ตอนนี้กลุ่มก้าวหน้าแกนนำม็อบสามนิ้วหรือพรรคการเมืองบางพรรคมีเป้าหมายอะไร คิดจะแก้รัฐธรรมนูญหมวดไหน และพยามแก้ไขยกเลิกมาตรา112 เพื่อวัตถุประสงค์อะไร
ทำไม่คนอย่างนายจตุพร กินแกลบกินหญ้าหรืออย่างไร จึงคิดไม่ได้คิดไม่เป็น จึงยอมตกไปเป็นเครื่องมือคนเหล่านั้น ไม่อยากคิดแทนเลยว่า ไปรับงานใครมา ใครวางยาให้ หรือถ้านายจตุพร คิดเองตัดสินใจเอง ได้แค่นี้ก็ต้องบอกว่า เพื่อนเก่าคนนี้มีความคิดหรือมันสมองแย่ยิ่งกว่า “บัฟฟาโล่ (buffalo)”เสียจริงๆ สส.อารีย์กับแรมโบ้ถือว่าเป็นคนที่สนิทที่สุด เตือนด้วยความหวังดีแล้วไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ ทางใครทางมันก็แล้วกัน”นายเสกสกล กล่าว