วันที่ 30 ก.ย. 65 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ เวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ส่งคำร้องของ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าสิ้นสุดลงของตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสองและมาตรา 158 วรรคสี่หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 2560 ได้กำหนดวิธีการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีไว้ 2 กรณี ซึ่งแตกต่างลงจากรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ คือการได้มาตรา 159 และตามบทเฉพาะการ มาตรา 272 การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 มีหลักการสำคัญว่า ให้พิจารณาเห็นชอบจากรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ต่อกกต. ก่อนการเลือกตั้ง และต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม จึงเป็นหลักการสำคัญประการหนึ่งของการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเมื่อผู้ถูกร้องได้รับความเห็นชอบตามาตรา 159 ประกอบมาตรา 272 และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562 ผู้ถูกร้องจึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยบริบูรณ์ และเป็นไปตามหลักทั่วไปของการมีผลบังคับใช้กฎหมาย และหลักความแน่นอนชัดเจนของกฎหมาย กล่าวคือการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 วรรคสี่ ต้องพิจารณากระบวนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 158 และ 159 โดยเฉพาะเงื่อนไขตามมาตรา 159 วรรคหนึ่งที่บัญญัติว่า ให้สภาฯให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี จากบุคคลที่มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม และเป็นผู้ที่มีชื่อในบัญชีพรรคการเมืองที่ได้แจ้งไว้
ผู้ถูกร้องได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เมื่อ 24 สิงหาคม 2557 ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามมติของสนช. และสนช.มาจากคสช.ถวายคำแนะนำ เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งต้องมีที่มาตามมาตรา 158 วรรคสอง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ แต่อย่างไรก็ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 264 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า ให้ครม. ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นครม.ตามรัฐธรรมนูญ 2560 จนกว่าครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่