“พรรคร่วมค้าน” ดิ้นใหญ่ ออกแถลงการณ์ 5 ข้อ โต้วินิจฉัย 8 ปีลุงตู่ ไม่สอดคล้องเจตนารมณ์รธน.

"พรรคร่วมค้าน" ดิ้นใหญ่ ออกแถลงการณ์ 5 ข้อ โต้วินิจฉัย 8 ปีลุงตู่ ไม่สอดคล้องเจตนารมณ์รธน.

วันที่ 30 ก.ย. 65 ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทินายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายจารุพล เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อชาติ นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ประชุม เพื่อติดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญแถลงเสร็จพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ออกแถลงการณ์ โดยนพ.ชลน่าน อ่านแถลงการณ์เรื่อง ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำรงตำแหน่ง มาแล้วครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค.57 โดยให้เหตุผลสรุปว่า การดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย 60 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญ 60 มีผลใช้บังคับนั้น

พรรคร่วมฝ่ายค้านน้อมรับคำวินิจฉัยของศาล และเห็นพ้องต้องกันว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีความคลาดเคลื่อนในข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญ ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผล ดังนี้1. การพิจารณาถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญนั้น นอกจากจะต้องหาความหมาย จากถ้อยคำตามลายลักษณ์อักษรแล้ว ต้องพิจารณาจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญด้วย โดยต้องพิจารณาในขณะเมื่อจัดทำรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญว่าได้มีการพิจารณาถึงสาระสำคัญหรือเหตุผลเบื้องหลังของแต่ละมาตราไว้อย่างไร เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญจึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามความเห็นของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่เปลี่ยนแปลงไป ตามความคิดและความรู้สึกของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญในแต่ละช่วงเวลาได้ เมื่อในชั้นร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ ที่ห้ามการดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี โดยมิได้บัญญัติข้อยกเว้นใดๆ ไว้ ได้มีความเห็นของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปรากฎชัดในบันทึกการประชุม อันเป็นหลักฐาน ที่ชัดเจนถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญว่า ให้นับรวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ดำรงอยู่ก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 60 ด้วย และมาตรา 264 ให้นับความเป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่อง จึงไม่อาจแปลความเป็นอย่างอื่นได้เลยว่า การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.57 เป็นต้นไปเท่านั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2.การวินิจฉัยให้เริ่มนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 อันเป็นวันที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 มีผลใช้บังคับนั้น จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีสิทธิดำรงตำแหน่งนายกฯหลัง 2 วาระ ในครั้งนี้แล้วอีก 2 ปี จนถึงปี 68 นั้น น่าจะเป็นการตีความที่ขัดรัฐธรรมนูญ (พราะจะส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถดำรงตำแหน่งได้รวม 10 ปี ซึ่งเกินกว่า 8 ปี และเกินกว่า 6 วาระ ปกติของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันผิดไปจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 60 และรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้าที่ต้องการจำกัดวาระและระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีให้เกิน 2 วาระ หรือเกินกว่า 8 ปี และยังขัดต่อการรับรู้ทั่วไปของประชาชนว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้นได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค 2557 ซึ่งการตีความในลักษณะนี้ จะมีผลแปลกประหลาดคือ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ในวันที่ 6 เม.ย.60 ที่รัฐธรรมนูญ 60 ประกาศใช้ ระยะเวลา 8 ปี ก่อนวันที่ 6 เม.ย.60 กลับไม่นำมานับ แต่หลังจากวันที่ 6 เม.ย.60 กลับนำมานับ ทั้ง ๆ ที่มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกฯฉบับเดียวกัน ดังนั้นในชั้นเริ่มต้นของการดำรงตำแหน่งนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อปี 57 แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 158 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญปี 60 แต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 59 ได้บัญญัติให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติก็ได้ให้ความเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีจึงถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ย่อมเป็นนายกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ ซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 264

3.เมื่อรัฐธรรมนูญปี 2560 ถูกอ้างความชอบธรรมจากผู้มีอำนาจบ่อยครั้ง ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงและผ่านการลงประชามติของประชาชน การตีความให้พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ในตำแหน่งเป็น 8 ปีได้ นอกจากขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้วยัง ขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยด้วย ถือเป็นการทำลายรากฐานของระบอบประชาธิปไตยอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการผูกขาดการใช้อำนาจ

4.เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แต่การวินิจฉัยที่ส่อว่าขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเสียเอง ย่อมเป็นการทำลายคุณค่าความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ แม้ผลคำวินิจฉัยจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ประโยชน์ แต่ก็จะเป็นการทำลายบรรทัดฐานทางกฎหมาย และอาจนำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้งที่ใหญ่หลวงในสังคม และเกิดการไม่ยอมรับในผลของคำวินิจฉัยได้

5. พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยควรมีการปฏิรูปกระบวนการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญเสียใหม่ ให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจที่เหมาะสม เพื่อมิให้มีการอาศัยผลของคำวินิจฉัยที่ผูกพันทุกองค์กร ไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมและไม่คำนึงถึงบรรทัดฐานทางกฎหมายที่ถูกต้องได้

 

พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าแม้ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้พลเอกประยุทธ์ มีสิทธิดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรทบทวนบทบาทตัวเองว่าสิ่งที่ตนเองเคยสัญญาไว้กับประชาชนเมื่อตอน ทำรัฐประหารว่าจะอยู่ไม่นานและจะปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ นั้น ถามว่าเป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วถือว่ายังไม่เพียงพอสำหรับการอยู่ในอำนาจหรือ และการอยู่ในอำนาจเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไปจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไร ในเมื่อสิ่งที่เคยพูดไว้ยังทำไมได้สักเรื่อง แต่กลับสร้างปัญหามากมายให้กับประเทศและประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ควรใช้โอกาสนี้ประกาศยุติบทบาททางการเมืองของตนเสีย โดยไม่ต้องไปกล่าวอ้างผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพื่ออยู่ในอำนาจต่อไปก็จะถือเป็นคุณูปการของประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เจ้าคณะอำเภอสั่งนิมนต์  “พระอาจารย์ชิน” พ้นสำนักสงฆ์ใน 7 วัน หลังปลุกเสก “หมูเด้ง” ลูกศิษย์เศร้าพระอาจารย์เป็นพระสายปฏิบัติ
ผบ.ทร.ชื่นชมนักรบ 356 นาย เสียสละช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่เชียงราย
"ผบ.ทร" ตรวจเยี่ยม หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ยกระดับกำลังพล-เครื่องมือ ทุกมิติ ย้ำรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่
"เจ้าอาวาสวัดดัง" พิษณุโลก เครียดหนัก เจ้าภาพกฐินเทงาน ซ้ำจ้างลิเกคณะดังมาแสดง กลับไม่จ่ายเงิน
“ชูศักดิ์” เผยเพื่อไทยตั้งวงวาง 3 สถานการณ์เร่งแก้ รธน. ย้ำยังเป็นเรื่องที่อยู่ในเป้าหมาย
"บิ๊กเต่า" เผยกองปราบเร่งสอบปม "ทนายตั้ม" รีดเงินบอสพอล 7.5 ล้าน
Ripley's Believe It or Not! Pattaya เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ตัวที่ 9 THE LOST PYRAMID การผจญภัย ล่าสมบัติในพีระมิดที่สูญหาย
"ทนายเจ๊อ้อย" เผยเหตุสอบปากคำนานเ ชี้ตร.เก็บทุกประเด็น ลั่นไม่มียอมความ
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น