กรมการแพทย์ เผย "มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" คนไทยพบบ่อย เปิด 8 อาการเข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรค ชี้ หากพบอาการผิดปกติ รีบแพทย์ด่วน
ข่าวที่น่าสนใจ
กรมการแพทย์ ชี้ “มะเร็งต่อมน้ำเหลือง” พบได้บ่อยในคนไทย แนะหมั่นสังเกตตนเอง หากคลำพบต่อมน้ำเหลืองโตหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรมศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย สามารถพบได้ทุกช่วงอายุแล้วแต่ชนิด โดยพบได้ประมาณ 3,000-4,000 คน/ปี มะเร็งที่เกิดกับต่อมน้ำเหลืองสามารถเกิดได้ทุกบริเวณของร่างกาย ตั้งแต่บริเวณ
- รักแร้
- คอ
- ขาหนีบ
- ตามข้อพับ
- และในช่องอก
- ช่องท้อง
นอกจากนี้ เซลล์ต่อมน้ำเหลืองยังมีอยู่ทุกอวัยวะในร่างกาย สามารถเกิดเป็นมะเร็ง ต่อมน้ำเหลืองได้ทั้งสิ้น เช่น
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำไส้
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในสมอง เป็นต้น
แพทย์หญิงศศินิภา ตรีทิเพนทร์ แพทย์ที่ปรึกษาด้านอายุรศาสตร์โรคเลือด สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า มะเร็ง ต่อมน้ำเหลือง แบ่งประเภทออกเป็น
1. มะเร็ง ต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma)
- ผู้ป่วยมักจะมีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณคอและช่องอก
- ให้การรักษาโดยการใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายแสง
- โอกาสหายขาดสูง
- พบมากและแบ่งย่อยออกได้อีกประมาณ 30 ชนิด แต่แบ่งตามลักษณะการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็น 2 แบบ คือ
(1) มะเร็งต่อม น้ำเหลืองชนิดรุนแรง (Aggressive lymphoma) การแบ่งตัวและแพร่กระจายเกิดอย่างรวดเร็ว มีอาการรุนแรง ดังนั้น จึงตอบสนองกับยาเคมีบำบัด ซึ่งออกฤทธิ์กับเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็วอยู่ค่อนข้างดี กลุ่มนี้ต้องรักษาทันที หากไม่รักษาผู้ป่วย อาจเสียชีวิตใน 6 เดือน ถึง 2 ปี แต่ถ้าได้รับการรักษาทันท่วงที มีโอกาสหายขาดจากโรคได้มาก แม้จะอยู่ในระยะไหนก็ตาม
(2) มะเร็ง ต่อมน้ำเหลืองชนิดค่อยเป็นค่อยไป (Indolent lymphoma) การแบ่งตัวและแพร่กระจายค่อนข้างช้า อาการเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่รุนแรงแต่เรื้อรัง กลุ่มนี้มักไม่ค่อยหายขาดด้วยเคมีบำบัดที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงรักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้ และติดตามอาการเป็นระยะ
ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของมะเร็ง ต่อมน้ำเหลือง
- เกิดได้จากทั้ง การติดเชื้อจาก virus เช่น HIV, HCV, EBV
- การติดเชื้อ bacteria ที่ทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง
- พันธุกรรม
- ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำจากการได้รับยา
- สารเคมีที่มีสารก่อมะเร็งอยู่ เช่น สารกำจัดศัตรูพืช
วิธีป้องกันของมะเร็ง ต่อมน้ำเหลือง
- หมั่นสังเกตตัวเอง
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
- หากเจ็บป่วยให้รีบ ไปรักษา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง
- รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
อาการของมะเร็ง ต่อมน้ำเหลือง
- อาการทางระบบหรือ B-symptom เช่น
– อาการไข้ที่ไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์
– เหงื่อออกตอนกลางคืน
– น้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือเบื่ออาหารผิดปกติ
2. อาการเฉพาะที่ที่เกิดจากต่อมน้ำเหลืองโตในบริเวณนั้น ๆ เช่น
– แน่นหน้าอก
– หายใจลำบาก
– ปวดแน่นท้อง
– ท้องอืด
– ปวดศีรษะ เป็นต้น
การรักษามะเร็ง ต่อมน้ำเหลือง
- ปัจจุบันให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดร่วมกับยาพุ่งเป้า (Targeted therapy) ที่เริ่มมีการศึกษาวิจัยและนำมาใช้มากขึ้นในปัจจุบัน
- ฉายแสงในบางกรณี และการปลูกถ่ายไขกระดูกในเคสที่กลับเป็นซ้ำ
- นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรักษาใหม่สำหรับโรคที่กลับเป็นซ้ำด้วยการใช้เซลล์บำบัด (CAR-T cell) ซึ่งยังอยู่ในช่วงการศึกษาวิจัยในประเทศไทย
ข้อมูล : กรมการแพทย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง