ฆาตกรฆ่าหั่นศพ “กิ๊กสาว” เปิดปากสารภาพ วางแผนขุดหลุมรอไว้หมดแล้ว

ฆาตกรฆ่าหั่นศพ "กิ๊กสาว" เปิดปากสารภาพ วางแผนขุดหลุมรอไว้หมดแล้ว

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากแม่บ้านของคอนโดฯแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 115 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จะเข้าไปทำความสะอาดห้องพักห้องหนึ่ง ได้กลิ่นคาวเลือด และน้ำภายในห้องน้ำถูกเปิดทิ้งไว้ จึงได้โทรแจ้งเจ้าของคอนโดฯ พร้อมโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่าเมื่อวันที่ 28 กันยายน นายชาญวิทย์ กับ น.ส.อรนันท์ หรือพิน  อายุ 30 ปี เป็นผู้มาเช่าห้องพักห้องดังกล่าว

ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะนายชาญวิทย์ เดินออกมาจากลิฟท์ พร้อมถุงขนาดใหญ่ 2 ใบ เดินถือออกประตูเลี้ยวไปทางขวาซึ่งเป็นที่จอดรถ แต่ไม่พบ น.ส.อรนันท์ เดินออกมาจากห้องแต่อย่างใด

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เปิดประตูเข้าไปก็พบนายชาญวิทย์ นั่งอยู่ภายในห้อง จากการสอบถามก็ ยอมรับว่าก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.อรนันท์ และนำชิ้นศพไปฝั่งไว้ที่อื่น จากการตรวจสอบภายในห้องมีพบคราบเลือด และการทำความสะอาดที่พื้นห้องน้ำ และตรวจร่องรอยหาพยานหลักฐานต่างๆ และตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน ฎล-8211 กรุงเทพมหานคร ที่ นายชาญวิทย์ ใช้ในการขนศพเพื่อนำไปอำพราง ก่อนควบคุมตัว นายชาญวิทย์ มาสอบสวน ที่ สภ.สำโรงเหนือ ก่อนจะคุมตัวพาไปชี้จุดที่นำ ชิ้นส่วนร่าง น.ส.อรนันท์ มาฝัง บริเวณริมถนนประเสริฐมนูกิจ บริเวณตอม่อทางด่วนฉลองรัช ทิศทางมุ่งหน้ารามอินทรา แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพหมานคร โดยพบว่ามีดินที่ถูกขุดและกลบใหม่ เจ้าหน้าที่จึงขุดลงไปพบถุงดำหลายใบถูกฝังอยู่ ภายในพบว่าเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ถูกตัดเป็น 7 ส่วน โดยใบแรก เป็นท่อนแขนซ้าย ใบที่สอง ส่วนหัว ใบที่สาม ส่วนขาซ้าย ตั้งแต่หัวเข่า ใบที่สี่ส่วนแขนขวา ข้อศอกลงมา ใบที่ห้า ส่วนขาขวา หัวเข่า ใบที่หก ส่วนลำตัว ต้นคอถึงเอว และใบที่เจ็ด ส่วนท่อนล่าง เอวถึงหัวเข่า

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบถามนายชาญวิทย์ วงศ์สหาก ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ ว่า ทำไมนายชาญวิทย์ถึงตัดสินใจลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แต่นายชาญวิทย์ได้แต่พยักหน้า และร้องไห้อยู่ภายใต้หน้ากากอนามัย คาดว่าผู้ต้องหาคงมีอาการเครียดอย่างหนัก จากนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าผู้ต้องหาคงเกิดอาการเครียดสะสม จึงได้ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนออกจากห้องสอบสวนไป

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์แถลงว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาไม่นานก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ จุดเริ่มต้นมาจากเมื่อวานนี้(1ต.ค.) ประมาณ 10.00 น. ตำรวจสภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งจากแม่บ้านของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในซอยสุขุมวิท 115 ว่าพบความผิดปกติเชื่อว่าน่าจะมีเหตุฆาตกรรม เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่พบนายชาญวิทย์ผู้ต้องหาขับรถเก๋ง Honda ย้อนกลับมายังที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวและซักถามโดยนายชาญวิทย์ รับสารภาพว่า ได้มาเปิดห้องพักกับแฟนสาว คือ นางสาวอรนันท์ ผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 กันยายน จากนั้นได้ใช้อาวุธมีดซึ่งเตรียมมาลงมือแทงนางสาวอรนันท์เป็นจำนวนหลาย 10 แผลจนถึงแก่ความตาย ซึ่งนายชาญวิทย์ วางแผนตระเตรียมมาล่วงหน้า ส่วนสาเหตุเนื่องจาก ผู้ต้องหาหึงหวงผู้ตายที่เริ่มจะตีจาก แม้ว่านายชาญวิทย์จะมีครอบครัวอยู่แล้วก็ตาม

จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้อยู่กับศพ 1 คืน ก่อนลงมือชำแหละร่างผู้ตายออกเป็นชิ้นส่วน 7 ชิ้น ใส่ถุงดำและใส่ถุงขนาดใหญ่ โดยนำไปฝังดินไว้ที่ใต้ทางด่วน ถนนประเสริฐมนูกิจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปชี้จุดที่บริเวณทิ้งศพ ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จนพบร่างผู้เสียชีวิต

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า ผู้ต้องหามีการเตรียมการที่จะฆ่าผู้ตายมานานหลายเดือนโดยมีการไปขุดหลุมฝังศพรอไว้ คือใต้ทางด่วนประเสริฐมนูกิจ ยืนยันผู้ต้องหาไม่มี อาการทางประสาท

 

ผู้สื่อข่าวถามรองผบ.ตร.อีกว่า ทำไมผู้ต้องหาถึงนำศพมาทิ้งไว้กลางเมือง ที่อาจมีคนพบเห็นได้ง่าย พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์บอกว่าไม่ไกลจากบ้านผู้ต้องหาที่อยู่แถววัชรพล เป็นเส้นทางที่คุ้นเคยและคิดว่าไม่น่าจะมีใครพบเห็นเนื่องจากเป็นที่เปลี่ยวไม่มีวงจรปิด

สำหรับของกลางที่ใช้ก่อเหตุมีเลื่อย มีด เลื่อยไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงงมหาของกลางอีก 1-2 ชิ้น ส่วนของกลางที่คนร้ายนำไปทิ้งที่คลองแถวจุดเกิดเหตุคือโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ Macbook ของผู้ตายตำรวจได้งมเจอแล้ว รวมไปถึงถุงดำขนาดใหญ่ที่ผู้ต้องหานำชิ้นส่วนใส่แล้วเอาไปฝัง

รองผบ.ตร. ยังกล่าวชมไปยังแม่บ้านคอนโดฯว่า มีไหวพริบดี ทั้งหมดเกิดจากการเข้าไปทำความสะอาดผิดห้อง แต่ได้กลิ่นคาวเลือดจึงรีบแจ้งตำรวจ จนนำมาสู่การจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น