ตำรวจอินโดนีเซียตกเป็นเป้าโจมตีเหตุใช้แก็สน้ำตาในสนามฟุตบอล

ตำรวจอินโดนีเซียตกเป็นเป้าโจมตีกรณีใช้แก็สน้ำตาควบคุมฝูงชนในสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด จนทำให้เกิดเหตุเหยียบกันตายนับร้อยศพ กลายเป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ในวงการกีฬา

AFP รายงานว่าอินโดนีเซียได้ปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลและเหยียบกันตายที่ส่นามฟุตบอลกันจูรูฮัน ที่เมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาเหลือ 125 คน หลังจากก่อนหน้านี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 174 คน เนื่องจากมีการนับซ้ำกัน ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 323 คน

ขณะที่ตำรวจควบคุมฝูงชนในที่เกิดเหตุตกเป็นเป้าโจมตีและถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ใช้แก็สน้ำตายิงเข้าใส่กลุ่มแฟนบอลที่วิ่งลงมาก่อเหตุวุ่นวายในสนามหลังทีมของตัวเองแพ้ และทำร้ายตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ส่งผลให้ผู้ชมในสนามจำนวนหลายหมื่นคนตื่นตกใจพากันวิ่งหนีออกจากสนาม จนเกิดเหตุเหยียบกันตายที่ประตูทางออก ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 17 คน และ 1 ในนั้นเป็นเด็กวัยเพียง 5 ขวบ

ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญในวงการฟุตบอลต่างมองว่าตำรวจทำเกินเหตุ และทำผิดกฎการควบคุมฝูงชนในสนามกีฬา เนื่องจากกฎกำหนดไว้ว่าไม่อนุญาตให้ตำรวจใช้อาวุธปืนหรือแก็สน้ำตาภายในสนามกีฬา ยกเว้นในกรณีจำเป็นจริงๆ และการควบคุมด้วยวิธีอื่นคุมไม่อยู่แล้วเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากสนามกีฬาเป็นพื้นที่ปิด อย่างไรก็ตามตำรวจยืนยันว่ากลุ่มแฟนบอลก่อเหตุจลาจลและตำรวจใช้แก็สน้ำตาในความพยายามที่จะกดดันให้แฟนบอลกลับขึ้นไปยังที่นั่งเท่านั้น

หลังเกิดเหตุประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ได้สั่งให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้น รวมทั้งทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามฟุตบอลทุกแห่ง และสั่งระงับการแข่งขันฟุตบอลทุกนัดทั่วประเทศ จนกว่าจะมีการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย

และเมื่อวานนี้แฟนบอลจำนวนมากได้นำพวงหรีดและดอกไม้มาร่วมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตที่ด้านหน้าสนามกีฬาที่เกิดเหตุ และที่สนามกีฬาในกรุงจาการ์ตา

โศกนาฎกรรมที่สนามฟุตบอลอินโดนีเซียเกิดขึ้นหลังจากที่เกมการแข่งขันระหว่างทีมอรีนา เอฟซี (Arena FC) และทีมเพอร์เซบายา สุราบายา ซึ่งเป็นทีมท้องถิ่นอินโดนีเซียเสร็จสิ้น และผลปรากฎว่าทีม อรีมา เอฟซี ซึ่งเป็นเจ้าบ้านแพ้คะแนน 2-3 บรรดาแฟนบอลของอรีมา เอฟซี เจ้าบ้านพาโกรธแค้น และได้วิ่งกรูลงมาในสนามและก่อเหตุวุ่นวาย จนบานปลายกลายเป็นเหตุเหยียบกันตาย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘เต้ มงคลกิตติ์ ’ เตือน ‘กัน จอมพลัง’ ถอยเพื่อรักษาชีวิต จำบทเรียนทนายตั้มไว้เป็นตัวอย่าง
"ซูเปอร์โพล" เผยคนไทยหลังสงกรานต์ ยังทุกข์ปัญหาศก. คงเชื่อมั่นศักยภาพ "นายกอิ๊งค์"
ทูตจีนประจำสหรัฐเรียกร้องทรัมป์ยุติสงครามการค้า
“ฮุนเซน” หัวร้อน! สั่งกองทัพขน BM21 หลัง “สปป.ลาว” ส่งทหารยึดพื้นที่
"นายกเบี้ยว-พีช" มารพ. หวังเข้าเยี่ยม "ลุง-ป้า" คู่กรณี แต่ถูกปฏิเสธ เขียนจดหมายฝากขอโทษอีกครั้ง
ผู้ค้า "ตลาดนัดจตุจักร" โวย "กทม." จัดพื้นที่ค้าไม่เป็นธรรม ให้เอกชนประมูล กระทบค่าที่โหด เดือดร้อนกว่า 500 แผง
"ก.อุตสาหกรรม" แก้เกม "ซินเคอหยวน" นัดแถลง 21 เม.ย.นี้ ประกาศตรวจเหล็กเส้นตึกสตง.เพิ่มอีก ในวันเดียวกัน ย้ำยึดข้อกม. เดินหน้าเอาผิด
ชัดเจน เปิดปมเหตุ "กัน จอมพลัง" อาสาช่วย "ลุง-ป้า" โดนเก๋ง BMW ปาดบนทางด่วน หวั่นซ้ำรอยคดีเก่า
หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ร่วมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนจีน
ชาวอเมริกันลุกฮือประท้วงทรัมป์เป็นครั้งที่สอง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น