วันที่ 3 ต.ค.65. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือประชาชนที่กระทรวงมหาดไทย ว่า จะบอกว่าไม่ห่วงประชาชนก็ไม่ได้ ซึ่งวันนี้ก็มาติดตามสถานการณ์น้ำมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าฯทุกจังหวัดในฐานะที่กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบศูนย์บรรเทาสาธารณภัย วันนี้จึงได้มาให้กำลังใจซึ่งกันและกันและติดตามสถานการณ์รับฟังการคาดการณ์ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามในฐานะเป็นนายกและเป็นรัฐบาลก็ยังคงมีความห่วงใยจึงได้มาติดตามสถานการณ์ และขอบคุณพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ได้ลงตรวจพื้นที่ประสบภัยและวันพรุ่งนี้ตนจะไปที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดอุบลราชธานีไปให้กำลังใจและติดตามสถานการณ์หน้างานโดยขอชื่นชมในการทำงานช่วงที่ผ่านมา ขอให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคนทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมกันในการแก้ปัญหาน้ำท่วมอุทกภัยที่เกิดขึ้นทั่วทุกภาคของประเทศ และกรุงเทพมหานครด้วย
"นายกฯ" ยันทำหน้าที่เพื่อปชช. เต็มที่ เหลือ 2 ปีเป็นเรื่องอนาคต ยิ้มไม่ตอบปรับครม.
ข่าวที่น่าสนใจ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสถานการณ์สภาพอากาศมีการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าเราต้องมีแผนสำรองในการเตรียมความพร้อมหากว่ามีร่องกดอากาศเข้ามาอีกว่าจะเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้อย่างไร ต้องลดความเสียหายได้มากที่สุด โดยต้องเตรียมมาตรการต่างๆและงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาให้ได้เร็วที่สุดให้ทุกภาคส่วน เพราะความเดือดร้อนเกิดขึ้น ซึ่งในระยะต่อไปต้องมีการเตรียมรับมือวันนี้ก็จะทำให้ดีที่สุดขอบคุณข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ภาคธุรกิจ เอกชน จิตอาสา มูลนิธิต่าง ๆ นี่แหละคือประเทศไทยของเราที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ขวัญกำลังใจซึ่งกันและกันนี่คือภารกิจที่สำคัญของพวกเรา โดยหลังจากนี้นายกรัฐมนตรีได้เตรียมแผนในการลงพื้นที่ไว้แล้ว ซึ่งต้องดูสถานการณ์ แผนก็คือแผนแต่ต้องดูสภาพอากาศตามสถานการณ์ด้วย หากเดินทางไปจะเป็นภาระแก่เจ้าหน้าที่หรือไม่ต้องดูตรงนี้ด้วยเพราะไปก็ไม่อยากเป็นภาระกับใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องของการไปดูแลพี่น้องประชาชนโดยภาพรวม
ส่วนหากมีประชาชนที่จะมาต้อนรับและให้กำลังใจนายกฯ หลังกลับมาทำหน้าที่นั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารู้ว่าหลายๆคนให้กำลังใจผมอยู่แล้ว ต้องขอบคุณมากๆเลยแต่อย่าเป็นภาระเลย ยังไงตราบใดที่ผมยังทำหน้าที่อยู่ ผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน
ทั้งนี้หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการอยู่ในวาระนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีนั้นเริ่มจากรัฐธรรมนูญปี 2560 บังคับใช้ หมายถึงพลเอกประยุทธ์จะสามารถเป็นนายกได้อีก 2 ปีนั้น อนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป พลเอกประยุทธ์ ระบุสั้นๆ ว่า “อนาคตก็คืออนาคตนะจ้ะ”
ก่อนจะเดินขึ้นรถเข้าปฏิบัติภารกิจภายในทำเนียบรัฐบาลต่อ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ไม่ตอบคำถามเรื่องหลังจากนี้จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ โดยยิ้มและโบกมือให้กับสื่อมวลชนก่อนจะออกจากกระทรวงมหาดไทยทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
