สำนักข่าว Sky News และ RT รายงานว่าโพลสำรวจความคิดเห็นของชาวอังกฤษของโอพิเนียม และอ็อบเสิร์ฟเวอร์โพล (Opinuim-Observer) ซึ่งจัดทำระหว่างวันที่ 28-30 กันยายนชี้ว่าคะแนนนิยมของทรัสร่วงลงเหลือเพียง 18% ซึ่งเป็นการลดลงมากถึง 37 จุด ลดมากกว่าจอห์นสันช่วงที่ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งซึ่งตอนนั้นคะแนนนิยมจอห์นสันลดลง 28 จุด และยังถือเป็นผลโพลที่แย่ที่สุดของผู้นำอังกฤษนับตั้งแต่ปี 2553 หรือในรอบ 12 ปี ทั้งๆที่ทรัสเพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ไม่ถึง 1 เดือน โดยได้รับการแต่งตั้งจากควีนเอลิซาเบ็ธที่ 2 เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
ผลโพลดังกล่าวเป็นผลพวงจากนโยบายแก้ปัญหาเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่พุ่งสูงของรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ และของนายกวาซี กวาเต็ง รัฐมนตรีคลังที่เพิ่งประกาศแผนลดภาษีมูลค่า 4 หมื่น 5 พันล้านปอนด์ไปปลายเดือนกันยายน รวมทั้งแผนลดภาษีผู้มีรายได้สูงกว่า 1 แสน 5 หมื่นปอนด์ต่อปี ขณะที่ราคาพลังงานและค่าครองชีพก็พุ่งสูงต่อเนื่องจนประชาชนแทบจ่ายไม่ไหว สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอังกฤษที่ลุกฮือขึ้นประท้วงและเผาบิลค่าไฟเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมองว่าเป็นนโยบายที่ไม่เป็นธรรม
ล่าสุดทรัสยอมกลับลำ และประกาศยกเลิกแผนลดภาษีคนรวยแล้ว ท่ามกลางความอับอายแต่ก็ยอมรับว่าเป็นความต้องการของประชาชนและตนจะยอมรับฟัง อย่างไรก็ตามกวาเต็ง ประกาศจะเดินหน้านโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพื่อลดภาระหนี้สินให้ประชาชนต่อไป แต่ครั้งนี้จะรีบชี้แจงรายละเอียดภายในเดือนนี้
นโยบายลดภาษีของทรัสได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับพรรคอนุรักษ์นิยมจนเริ่มมีกระแสเรียกร้องให้ทรัสจัดการเลือกตั้งใหม่