ถือเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์ กับสารพัดปัญหาของ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ เริ่มจากความวุ่นวายในโครงการ บริหารจัดการ ระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ในพื้นที่ ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี , ระยอง มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ จนกระทั่งอีสท์วอเตอร์ ได้ยื่นฟ้องร้องคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหาร และดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และกรมธนารักษ์ ต่อศาลปกครองกลาง ไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564
ประเด็นสำคัญ คือ แม้ว่า ศาลปกครองกลาง จะยังไม่มีคำพิพากษาใด ๆ แต่ทางด้าน นายประภาศ คงเอียด ซึ่งปัจจุบันเป็นอดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ กลับเดินหน้าลงนามสัญญาดำเนินโครงการ กับ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ก่อนจะเกษียณอายุราชการเพียงไม่กี่วัน จนกลายเป็นข้อคำถามมากมาย ว่า ถ้าศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาอย่างหนึ่งอย่างใด กรมธนารักษ์ จะดำเนินการ หรือ รับผิดชอบอย่างไร โดยเฉพาะความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมา จากการฟ้องร้องของทั้ง 2 บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง และกลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบไปโดยปริยายจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง
ในขณะที่ กรณีของ นายจำเริญ โพธิยอด รองปลัดกระทรวงกระทรวงคลัง ซึ่งครม.เพิ่งอนุมัติ เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมธนารักษ์ ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างรอขั้นตอนโปรดเกล้าฯ จึงเป็นเพียง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมธนารักษ์ เท่านั้นอีกด้วย
อีกด้านจากการตรวจสอบล่าสุดของ TOP NEWS พบว่า ศาลปกครองกลาง กำลังสรุปหลักฐาน คำชี้แจงเพิ่มเติม ทั้งหมด จากคำสั่งก่อนหน้าให้ทุก 3 ฝ่าย คือ อีสท์วอเตอร์ ในฐานะโจทก์ , คณะกรรมการคัดเลือกฯ กรมธนารักษ์ ในฐานะจำเลย และ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง ในฐานะผู้ร้องสอด ทำรายละเอียดมาส่งภายใน 7 วัน นับจากวันไต่สวนครั้งแรก และทั้งหมดได้ยื่นข้อมูลต่อศาลปกครองกลาง ครบถ้วนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ทำให้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปว่า ในระยะอันใกล้นี้ ศาลปกครองกลาง จะมีคำพิพากษาคำฟ้องของ อีสท์วอเตอร์ แบบไหน อย่างไร
และอีกหนึ่งจุดสำคัญปัญหาภายใน บริษัท อีสท์วอเตอร์ ก็คือ ผลพวงจากการที่ตัวแทนผู้ถือหุ้น ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการ ก.ล.ต. ให้ตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดจากการบริหารงานของคณะกรรมการบริษัท หรือ บอร์ด ภายใต้ความรับผิดชอบของ นางอัศวินี ไตลังคะ ประธานคณะกรรมการบริษัท อาทิ
1. ประเด็นการสรรหาแต่งตั้งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทฯ
2. ประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จากการพิจารณาแต่งตั้งผู้ใกล้ชิด บริหารงานบริษัทในเครือฯ
3. ประเด็นการทุจริต โครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก วงเงิน 75 ล้านบาท
4. ประเด็นการเร่งรัดจัดจ้างสร้างระบบท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง และสถานีเพิ่มแรงดันหนองปลาไหล มูลค่า 4.2 พันล้านบาท