“รมว.มหาดไทย” ชี้ หากมรสุม-พายุไม่ซ้ำเติม จะสามารถจัดการมวลน้ำได้ หวังไม่ซ้ำรอยน้ำท่วมปี 54

"รมว.มหาดไทย" ชี้ หากมรสุม-พายุไม่ซ้ำเติม จะสามารถจัดการมวลน้ำได้ หวังไม่ซ้ำรอยน้ำท่วมปี 54

วันนี้ (5 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เผยสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันว่า มวลน้ำจะมาถึง จ.อุบลราชธานี วันที่ 8 ตุลาคมนี้ จะเป็นวันที่พีคสุด ส่วนระดับแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าตลิ่ง จะเร่งระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยา การระบายน้ำของเขื่อนชัยนาทและเขื่อนเจ้าพระยา บวกกับแม่น้ำป่าสัก ปริมาณน้ำยังไม่ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ ถ้าไม่มีฝนเติมเข้ามาอีก

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนสถานการณ์น้ำภาพรวมจะไม่ซ้ำรอยกับปี 2554 ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าไม่มีพายุหมุนฤดูร้อนเข้ามา หรือร่องมรสุมพาดผ่าน คาดว่าจะมีร่องมรสุมที่มาจากอิทธิพลความกดอากาศจากประเทศจีน ทำให้ร่องมรสุมต่ำทำให้เกิดฝนทางภาคใต้ของไทย ถ้าเป็นอย่างนั้น ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือจะได้รับผลกระทบน้อย ส่วนปี 2554 มีพายุหมุนฤดูร้อน 3 ลูก และมีร่องมรสุมพาดผ่านติดต่อกัน 3 ครั้ง จึงทำให้มีฝนมาก และระบายน้ำไม่ทัน แต่ปีนี้จะหนักในบริเวณน้ำไหลผ่าน ถ้าไม่มีมรสุมหรือร่องมรสุมเข้ามาอีก จะสามารถบริหารจัดการน้ำได้

เมื่อถามว่า ทุกพื้นที่มีแผนการรับมือ และแผนการเยียวยาประชาชนไว้พร้อมแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเรารู้สถานการณ์น้ำก็จะต้องประเมินสถานการณ์ มวลน้ำจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในเรื่องที่อยู่อาศัย การดำรงชีวิต และการสัญจร เราต้องเตรียมการ เช่น ที่พักพิงและการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้พร้อม เรากำลังดำเนินการอยู่ในทุกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินการ ส่วนเรื่องแผนเยียวยาเรามีระเบียบกระทรวงการคลังอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่า ถ้าเริ่มฟื้นฟูเยียวยาได้ ก็ให้เร่งสำรวจความเสียหายโดยเร็ว ดังนั้นทุกฝ่ายเตรียมการเรื่องข้อมูลในทุกพื้นที่ไว้แล้ว จะเร่งสำรวจและเร่งจ่ายเงินเยียวยาโดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ที่อาศัยที่จะเข้าไปซ่อมแซม

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเกิดความขัดแย้งให้ระบายน้ำ จะทำความเข้าใจอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ประชาชนบางส่วนไม่อยากให้ปล่อยน้ำไปที่ทุ่ง เราไม่สามารถยั้งน้ำเหนือได้ ถ้าไม่เปิดก็อาจจะท่วมจึงต้องเปิดประตูระบายน้ำ แต่ชาวบ้านบางส่วนขอให้ทยอยปล่อย ให้ส่งผลกระทบน้อยที่สุด ถ้าปล่อยมากจะได้รับผลกระทบมาก ฉะนั้นจึงต้องสร้างความเข้าใจต่อประชาชนว่าเราต้องปล่อยเพื่อให้น้ำผ่านไปทัน อีกทั้งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ดูแลเรื่องนี้ เพราะน้ำจะเชื่อมต่อกันหมด จึงต้องดูว่าจะเปิดหรือปล่อยน้ำที่ไหน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมวังฯ" ติดตามความสำเร็จ โครงการ "กำลังใจ" ตรวจเยี่ยมเรือนจำกลาง จ.ภูเก็ต เน้นการฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ผู้ถูกคุมความประพฤติ และผู้พ้นโทษ
ถล่มโกดัง! ยึดฝ้ายชุบไอซ์ 1.65 ตัน ตะครุบนกต่อสาวไทย-รอส่งออสเตรเลีย
ตร.จับ 2 เจ้าหนี้ ปล่อยเงินกู้ดอกโหด ลูกหนี้เครียดยิงตัวตายคาหอพัก
รัฐบาลกัมพูชายืนยันไม่เกี่ยวเหตุสังหารอดีตสส.ฝ่ายค้านที่ไทย
“รองผวจ.ประจวบฯ” พร้อมปฏิบัติตามกม. ปมอัลไพน์ ชาวบ้านเชื่อวัดธรรมิการาม ไม่อยากได้ที่ดินคืน
“แสตมป์” รับแล้ว “กลัวติดคุก” ยันโดนขู่ยัดคดี 112 ผวาจนต้องถอนฟ้องคู่กรณี
“Co-op Market Fair พลังสหกรณ์ ขับเคลื่อนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น By ร้านสหกรณ์กรุงเทพ จำกัด สาขาเอกมัย”พบกับผลิตภัณฑ์สินค้าดีมีคุณภาพของสหกรณ์นำมาจำหน่ายสู่คนเมือง
เที่ยว ‘งานวัดโบราณ’ รับตรุษจีนที่เหอหนาน
บินโดรนโชว์ ‘มังกรร่อน หงส์ไฟรำ’ ในฉงชิ่งของจีน
‘เขาหวงซาน’ ของจีนติดสถานที่น่าเที่ยวปี 2025 ของนิวยอร์ก ไทม์ส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น