ผู้ถือหุ้น “อีสท์วอเตอร์” ฟ้องอาญาบริษัททำLG ปลอมสร้างสระน้ำ 75 ล้าน

ผู้ถือหุ้น "อีสท์วอเตอร์" ฟ้องอาญาบริษัททำLG ปลอมสร้างสระน้ำ 75 ล้าน

สืบเนื่องจากประเด็นปัญหา ภายในบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ จนมีการยื่นคำร้องก.ล.ต. ให้เร่งดำเนินการหลายกรณี รวมถึงการว่าจ้างผู้รับเหมา ดำเนินโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี วงเงิน 75 ล้านบาท แต่ตรวจพบมีการใช้หนังสือสัญญาค้ำประกัน หรือ Letter of Guarantee (LG) ปลอม เข้าทำสัญญาจ้าง แต่ปรากฎว่าบอร์ด อีสท์วอเตอร์ กลับไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมาย และยังคงว่าจ้างให้รับผิดชอบโครงการตามปกติ

 

โดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2565 นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ผู้ได้รับมอบหมายจากเครือข่ายผู้ถือหุ้น ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ (ก.ล.ต. ) เพื่อทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบ การทำหน้าที่ของบอร์ด และผู้บริหาร อีสท์วอเตอร์ เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดในหลายกรรม

 

 

ล่าสุด วันที่ 6 ต.ค.65 นายวิวัฒน์ ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด กับพวก ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้าง โครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ดังกล่าว ตามหลักฐานการกระทำความผิด เรื่องการปลอมและใช้หนังสือสัญญาค้ำประกัน (หลักประกันสัญญาจ้าง) และหนังสือสัญญาค้ำประกัน ( ประกันเงินเบิกจ่ายล่วงหน้า) ซึ่งออกโดยธนาคารกสิกรไทย มาใช้ยื่นประกอบทำสัญญาว่าจ้างโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก

 

 

ภายหลังการเข้าแจ้งความ นายวิวัฒน์ ระบุว่า ตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจ ได้มายื่นเรื่องคำร้อง พร้อมหลักฐาน หนังสือค้ำประกันสัญญา หรือ แบงก์การันตีปลอม จำนวน 2 ฉบับ ให้ดำเนินคดีกับบริษัท โกลบอล ฯ โดยการสรุปข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นกรณีการปลอมเอกสาร และใช้เอกสารสิทธิปลอม เพื่อให้ได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับบริษัท อีสท์ วอเตอร์ ซึ่งหากบริษัทดังกล่าวไม่มีเเบงก์การันตีปลอม ย่อมไม่สามารถเข้าทำสัญญาโครงการสระเก็บน้ำสำนักบกได้ จึงเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ

ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปหลักฐานเบื้องต้น เพื่อให้ผู้เสียหาย รวมถึงผู้ถือหุ้นมาให้ปากคำ พร้อมทำหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอลซัลแตนท์ ที่ทำหนังสือค้ำประกันปลอม รวมถึงบอร์ดของอีสท์วอเตอร์ หรือ ธนาคารเข้ามาให้ปากคำตามข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

 

 

นายวิวัฒน์ ระบุด้วยว่า การนำเอกสารสิทธิ์ปลอมมาใช้ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นเจตนาเพื่อมุ่งทำให้บริษัทของตนเอง ได้มีสิทธิเข้าทำสัญญาในโครงการสระเก็บน้ำสำนักบก จึงถือเป็นการนำเอาข้อมูลหรือเอกสารเท็จมาทำสัญญากับบริษัทอีสท์ วอเตอร์ไป และผู้ถือหุ้นซึ่งเปรียบเสมือนเจ้าของบริษัท อยู่ในสถานะเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับการกระทำดังกล่าว จึงย่อมมีสิทธิ์ร้องทุกข์กล่าวโทษได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากแจ้งความกล่าวโทษทางอาญาต่อผู้กระทำผิดทั้งหมดแล้ว พรุ่งนี้ ( 7 ต.ค.) จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ เพื่อให้มีหนังสือยืนยันว่า แบงก์การันตีทั้งสองฉบับเป็นเอกสารจริงหรือไม่ แม้ว่าเบื้องต้นจะมีการรับทราบแล้วว่า เอกสารทั้งสองฉบับเป็นเอกสารปลอม แต่ถ้ามีหนังสือยืนยันจากธนาคารออกมา จะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถเร่งรัดดำเนินคดีได้เร็วขึ้น

ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นจากการใช้แบงก์การันตีปลอมในครั้งนี้ จะมีบทลงโทษหนักกว่าการปลอมแปลงเอกสารทั่วไป โดยมีโทษจำคุก 5 ปี และจะในคำร้องทุกข์ได้ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่ละเว้นบุคคลใด

 

 

สำหรับโครงการพัฒนา “สระสำรองน้ำสระสำนักบก” ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี มูลค่า 75,000,000 บาท (เจ็ดสิบห้าล้านบาทถ้วน) ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อการกักเก็บน้ำ ด้วยความจุ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร

ที่ผ่านมา TOP NEWS ได้สืบค้นข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การพิจารณาดำเนินการจากผู้เกี่ยวข้อง ให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และชอบธรรมด้วยกฎหมาย เริ่มจาก บันทึกการประชุม คณะกรรมการ อีสท์ วอเตอร์ ครั้งที่ 4/2565 วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565

1. บุคคลผู้เข้าร่วมประชุม พิจารณาวาระการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง ตามเอกสารบันทึกการประชุม ประกอบด้วย

1. นางอัศวินี ไตลังคะ ประธานคณะกรรมการบริษัท
2. พลเรือเอก สุชีพ หวังไมตรี ประธานคณะกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
3. นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
4. คณะกรรมการบริษัท

2.บันทึกการประชุม ในระเบียบวาระที่ 5 แสดงรายละเอียด ว่า ที่ประชุมรับรู้ รับทราบว่า หนังสือค้ำประกันสัญญาตรวจสอบพบว่าเป็นของปลอม โดย นายสุรชัย ขันอาสา กรรมการอิสระ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ กรรมการบริหารความเสี่ยง ได้ซักถามที่ประชุม เรื่องเอกสารค้ำประกันทางการเงินของ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด พร้อมระบุว่าจากการตรวจสอบทำให้รับทราบว่า หนังสือค้ำประกันสัญญา ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญมีปัญหา ทำให้การทำสัญญาไม่สมบูรณ์ ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่ควร แจ้งเริ่มงาน โดยเห็นว่า หากมีการยื่นหนังสือค้ำประกันสัญญาปลอม ควรแจ้งความ เนื่องจากเป็นคดีอาญา

3. กรณีดังกล่าว ฝ่ายบริหารยอมรับ และให้ข้อมูลว่า หนังสือค้ำประกันสัญญาของผู้รับจ้างฉบับแรก ได้รับการปฏิเสธแล้วจากธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ หลังจากก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน มีหนังสือชี้แจงว่า หนังสือค้ำประกันดังกล่าว เป็นฉบับจริง ที่ตนลงนาม แต่ฝ่ายบริหารเลือกจะขอหนังสือ ยืนยันจากธนาคารกสิกรไทย สำนักพหลโยธิน จากนั้นสำนักฯสาขา แจ้งว่า ต้องขอออกหนังสือจากธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตอบกลับจากธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่

ฝ่ายบริหาร นำเสนอในที่ประชุม ด้วยว่า กรณีผู้รับจ้างยื่นหนังสือค้ำประกันสัญญาปลอม บริษัทฯ อาจต้องจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ แต่การจ้างผู้ประกอบการรายใหม่ อาจมีมูลค่างานมากกว่างบประมาณเดิม ที่อนุมัติไว้ 75 ล้านบาท โดยในการประมูลครั้งก่อน ผู้เสนอลำดับที่ 2 เสนองบประมาณ 91 ล้านบาท

4. ประธานฯ ที่ประชุม มอบหมายให้ฝ่ายบริหารติดตามดำเนินการต่อไป โดยฝ่ายบริหารแจ้ง หากธนาคารยืนยันแล้วว่า หนังสือค้ำประกันสัญญาของผู้รับจ้างเป็นปลอม ฝ่ายบริหารจะเริ่มการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่

5. ประธานฯ ที่ประชุมชี้แนะว่า ในอนาคตหากสัญญายังไม่สมบูรณ์ ก็ไม่ควรให้ผู้รับจ้างเริ่มงาน และหากมีขั้นตอนใดที่ล่าช้า เช่น การตรวจสอบหนังสือค้ำประกันสัญญาของโครงการ ก็ควรเร่งเข้าตรวจสอบ

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า มติที่ประชุม ในวันดังกล่าว ไม่ได้มีมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งความ ทั้ง ๆ ที่มีการแจ้งว่า หนังสือค้ำประกันสัญญาของผู้รับจ้างฉบับแรก เป็นเอกสารปลอม โดยได้รับการปฏิเสธแล้ว จากธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน TOP NEWS ตรวจสอบเพิ่มเติม จากรายงานการประชุมณะกรรมการการลงทุน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 โดยมี พลเรือเอก สุชีพ หวังไมตรี เป็นประธาน พบว่า ในการระเบียบวาระที่ 3.3 เรื่อง การขออนุมัติขยายกรอบระยะเวลาการก่อสร้าง โครงการปรับปรุงสระสำรองน้ำดิบ สำนักบก ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี

1.บันทึกการประชุมตอนหนึ่ง ระบุว่า เมื่อ วันที่ 17 มีนาคม 2565 ได้มีการแจ้งชะลอโครงการ เนื่องจากฝ่ายอำนายการได้ทำการตรวจเอกสารหนังสือค้ำประกันสัญญา ที่บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ส่งมาอ้างอิง ” มิได้ออกโดยธนาคารกสิกไทย จำกัด (มหาชน)” จึงได้ทำการส่งหนังสือแจ้งยกเลิก และยุติการลงนามสัญญาเมื่อเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565

แต่ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2565 วันที่ 22 เมษายน 2565 มีมติมอบหมายให้ฝ่ายบริหาร ดำเนินการโครงการดังกล่าว ทั้งการเจรจากับหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เพื่อให้กักเก็บน้ำได้ในปี 2565 และกลับไปพิจารณาแนวทาง อนุมัติให้ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด (GPC) ส่งมอบหนังสือค้ำประกันของธนาคาร (LG) ฉบับใหม่ ได้อีกครั้ง โดยกำหนดเงื่อนไขว่าต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานใหญ่ ภายในสิ้นเดือน เมษายน 2565 หรือให้ฝ่ายบริหารนำเสนอแนวทางอื่นที่เหมาะสมต่อไป

2.ประเด็นสำคัญ ปรากฎในบันทึกการประชุม ด้วยข้อความว่า ” ฝ่ายบริหาร ได้เจรจาและพิจารณาให้ GPC หรือ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด สามารถส่งหนังสือ / เอกสารค้ำประกันฉบับใหม่ ที่ออกให้โดยธนาคารและมีความถูกต้อง เพื่อให้โครงการสามารถลงนามสัญญาและเริ่มงานปรับปรุงสระสำนักบกได้

3.ปรากฎรายละเอียดเพิ่มเติม ภายหลังการเจรจาด้วยเงื่อนไขใหม่ GPC ได้มีหนังสือขอเปลี่ยนแปลงหลักประกันสัญญา และไม่ขอรับการเบิกเงินล่วงหน้า ส่งมายังบริษัทอีสท์วอเตอร์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565

4. ที่ประชุมอ้างว่าด้วยเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงเพื่อให้บริษัทสามารถควบคุม งบประมาณการจ้างผู้รับจ้าง โครงการปรับปรุงสระสำนักบก ตามกรอบงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ 75 ล้านบาท โดยไม่ขอขยายงบประมาณเพิ่ม และการลงนามสัญญายังสามารถดำเนินการต่อเนื่องในปี 2565 ฝ่ายบริหารจึงเห็นควรพิจารณาการเปลี่ยนแปลงหลักประกันสัญญา เป็นเช็คเงินสดที่ธนาคารเป็นผู้สั่งจ่าย (CASHIER CHEQUE) ในจำนวนเงิน 3,750,000 (สามล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) หรือเท่ากับร้อยละห้า (5%) ของมูลค่าทั้งหมดของสัญญา เพื่อใช้เป็นหลักประกันค้ำสัญญาแทนหนังสือค้ำประกัน (ตามระเบียบด้านการบริหารสัญญา) และไม่ขอรับการเบิกเงินล่วงหน้า (ADVANCE PAYMENT) จากบริษัท

5.นอกเหนือจากการอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางการเงินระหว่าง GPC หรือ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด กับ บริษัทอีสท์วอเตอร์ ที่ประชุมคณะกรรมการลงทุน ยังมีการปรับเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นกรณีพิเศษ ให้กับคู่สัญญา อาทิเช่น

1. เห็นควรพิจารณาขยายกรอบระยะเวลา จากเดิม 210 วัน เป็น 300 วัน (นับจากวันที่แจ้งเริ่มงาน)
2. เร่งดำเนินการด้านสัญญา เพื่อให้การลงนามสมบูรณ์ สามารถแจ้งเริ่มได้โดยเร็ว ทั้งนี้ เมื่อได้รับการขยายระยะเวลาเป็น 300 วันแล้ว ในเดือนมิถุนายน 2565 จะต้องพิจารณาออก LOI เพื่อให้ทางผู้รับจ้างเริ่มงานได้ทันที โดยดำเนินการจัดเตรียมด้านสัญญาควบคู่ไปด้วย กำหนดการลงวันที่การลงนามสัญญาเป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ระยะเวลาการดำเนินการ 300 วัน นับจากวันแจ้งเริ่มงาน
3. การดำเนินการโครงการปรับปรุงสระสำนักบก คงกรอบงบประมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติสั่งจ้างที่ 75 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

6. อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีความพยายามผลักดัน ให้ GPC หรือ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด สามารถกลับมาเป็นคู่สัญญาได้ แต่ในที่ประชุม โดยการแสดงความเห็นของกรรมการฯบางส่วนยังมีข้อกังขา

 

โดย นายวัลลภฯ หนึ่งในคณะกรรมการ มีข้อสังเกตว่า การขยายระยะเวลาสามารถทำได้เมื่อมีการลงนามในสัญญาแล้ว เนื่องจากสัญญาที่ลงนามแล้วเป็นการดำเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่ง นอกจากนี้ มีความเห็นว่า บริษัทฯเป็นบริษัทมหาชน จำกัด จึงควรดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล หากบริษัทฯ ทำการยายระยะเวลาก่อนทำการลงนามในสัญญา ก็จะไม่มีหลักหรือข้อกฎหมายใดมารองรับ

ขณะที่ นายสุรชัย เชื้อแพ่ง ตั้ง ข้อสังเกตว่า LG ที่โกบอลฯ นำมาวางเป็นหลักประกันไม่ใช่ฉบับจริงจากธนาคาร โดยคณะกรรมการบริษัท (ประชุมครั้งที่้ 5/2565 วันที่ 22 เม.ย.65) มีความเห็นว่า ให้ โกบอลฯ ส่งมอบ LG ฉบับใหม่ที่ผ่านการรับรองจากธนาคารสำนักงานใหญ่ ภายในสิ้นเดือนเม.ย.65 หรือให้ฝ่ายบริหารนำเสนอแนวทางอื่นที่เหมาะสมต่อไป จากนั้น ให้ฝ่ายบริหารตรวจสอบให้รอบคอบว่า การที่บริษัทไม่ยกเลิกสัญญากับ โกบอลฯ โดยเปิดโอกาสให้นำแคชเชียร์เช็ค มาวางค้ำประกันแทนนั้น สามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน จากนั้นสอบถามว่า ใครเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณา เนื่องจากเป็นห่วงว่าจะเป็นการใช้อำนาจโดยที่ไม่มีระเบียบมารองรับ

จนท้ายสุดที่่ประชุมได้มีความเห็นว่า “ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย กับการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่แล้ว ฝ่ายบริหารมีความเห็นว่า GPC ยังมีศักยภาพในการทำงานโครงการให้แล้วเสร็จได้ โดยฝ่ายบริหารจะให้ผู้รับจ้าง เบิกค่างวดงานไม่เกินปริมาณงานที่ทำได้จริง และจะควบคุมการทำงานของผู้รับจ้างอย่างใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาเรื่องความไว้วางใจในการทำงานของผู้รับจ้าง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ประเสริฐ" ยัน แจกเงิน 10,000 เฟส 2 ไม่หวังผลการเมืองอบจ. แย้มเฟส 3 ระบบแอปฯทางรัฐ
"ประเสริฐ" พอใจปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลดความเสียหายได้ 40% ชงเป็นผลงานรัฐบาล
“เอกนัฏ” ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด สั่งจับโรงงานสายไฟไม่ได้มาตรฐาน ยึดของกลาง 65 ล้าน
“สุชาติ”เปิดงาน“ชลบุรี พราว เอ็กโป 2024” สร้างช่องทาง SME สร้างงานปชช.
รัฐบาลเปิดตัวนวัตกรรม “ตู้ห่วงใย” บริการทางการแพทย์ พบแพทย์ผ่านวิดีโอคอล เล็งขยายทั่วประเทศ
"พระปีนเสา" เล่านาที ถูกทำร้ายหน้าช่อง 8 เจ็บจนเห็นดาวเห็นเดือน โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน
"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น