“หมอกัมปนาท” ชำแหละสื่อ หลังโทรขอสัมภาษณ์ “โศกนาฏกรรม” หนองบัวลำภู ส่งผลกระทบ ศก.อย่างไร

"หมอกัมปนาท" ชำแหละสื่อ หลังโทรขอสัมภาษณ์ "โศกนาฏกรรม" หนองบัวลำภู ส่งผลกระทบ ศก.อย่างไร

นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล หรือหมอแดน จิตแพทย์ชื่อดัง เมื่อไม่กี่ชั่วโมง​ที่ผ่านมา มีทีมงานสื่อโทรทัศน์​ช่องนึงโทร.เข้ามาบอกว่าจะขอสัมภาษณ์คุณหมอในเรื่องจากเคสโศกนาฏกรรมจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ฟังแล้วอยากจะเป็นลมผมเลยตอบไปว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆเพราะแม้กระทั่งสื่อที่เคยไว้วางใจมากๆก็ตาม เวลามาสัมภาษณ์ไม่เคยสนใจเนื้อหาที่หมอให้สัมภาษณ์เลยว่าจะเกิดประโยชน์กับสังคมในด้านใด แต่อยากจะเอาคำสัมภาษณ์​ บทสัมภาษณ์ ของเราไปจับเชื่อมโยงกับประเด็นที่ตัวเองต้องการ

แล้วถามว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหรือ??? ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจก็ไม่รู้จะวิเคราะห์อะไรยังไงให้มันไปเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ แล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรด้วย​ การที่เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไปวิเคราะห์มั่วๆน่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีไหมครับ และที่น่าสงสัยอีกอันนึงก็คือมีวาระแอบแฝงซ่อนเร้นอะไรหรือเปล่าในการพยายามจะใช้คำสัมภาษณ์ของหมอเชื่อมโยงไปถึงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ​ ปัญหาปากท้องของประชาชน​ แล้วก็โยงไปด่ารัฐบาล​ ด่านักการเมืองทุกยุคทุกสมัยโยงกันไปถึงเรื่องอดีต สงสัยจะขุดกันไปถึงเรื่องต้นกำเนิดของประเทศไทยเลยกระมัง… (เกรงว่าจะโดนเสี้ยม​ให้วิเคราะห์​ไปถึงสมัยพ่อขุนราม​คำแหงมหาราชหรืออย่างไร​)​ แล้วก็สรุปว่า​”ความจน” เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งปวงแบบนั้นหรือ งงกับแนวคิดแบบนี้มาก

เรายินดีที่จะให้ความรู้กับสังคมนะถ้าคุณต้องการให้เรานำเสนอความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ในเรื่องของการป้องกันการใช้ความรุนแรงในสังคมหรือปัญหาสุขภาพจิต ว่ามาจากอะไรบ้าง​ เราจะมีวิธีการค้นหาหรือป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆอย่างไรบ้าง แล้วปัญหาสังคมที่เกี่ยวโยงกันทั้งหมดอันนำไปสู่การเกิดโศกนาฏกรรมมันเกิดจากอะไรได้บ้าง​ ยกตัวอย่าง​ เช่น

1. เหตุการณ์การกราดยิงที่เจอในต่างประเทศและในประเทศไทยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไรไม่ใช่พูดแต่เรื่องอาวุธปืนอย่างเดียวคงไม่ได้หรอกนะครับ​ เพราะควบคุมยังไงก็ควบคุมยากเรามีตัวอย่างในอเมริกาให้เห็นอยู่

2.ต้องไปดูด้วยว่าคนที่เขามีปัญหาสุขภาพจิตแล้วเราไม่รู้หรือเราจัดการไม่ได้แล้วปล่อยให้มันรุนแรงมากขึ้นมันก็เกิดโศกนาฏกรรมได้ตั้งเยอะแยะ​ ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น​ แล้วระบบการป้องกันเป็นอย่างไร ประเทศไทยมีกฎหมายสุขภาพจิตมาตั้งแต่ปี 2551 แต่แทบจะไม่ได้บังคับใช้อะไรเลย โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงในการใช้ความก้าวร้าวรุนแรงต่อตัวเองแล้วก็ผู้อื่น

3.ที่ผ่านมามันมีคนนิสัยไม่ดีบางคนชอบอ้างเรื่องโรคซึมเศร้าเลยกลายเป็นว่าโรคซึมเศร้าเป็นโรคที่น่ารังเกียจแล้วเป็นโรคของความตอแหล เอาไว้แถเวลาทำผิด คนเลยไม่สนใจและเห็นใจคนที่เป็นโรคสักเท่าไหร่

4.รายนี้เท่าที่สังเกตดูจากข้อมูลที่ได้มาก็สันนิษฐาน​ว่าน่าจะมีภาวะซึมเศร้าหรือปัญหาสุขภาพจิตอยู่ แล้วพยายามรักษาปัญหาสุขภาพจิตหรือภาวะซึมเศร้าของตัวเองด้วยการใช้สารเสพติด​ (self medication) พอใช้สารเสพติดเยอะๆก็เกิดผลข้างเคียงจากการใช้สารเสพติด​ ก็คืออาการทางจิตควบคุมตัวเองไม่ได้หวาดระแวงคลุ้มคลั่ง​ เลยตามมาด้วยโศกนาฏกรรมอย่างที่เราเห็น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

5. สังคมไม่สนใจหรอกว่าใครมีปัญหาสุขภาพจิตอะไร รู้แค่ว่าถ้าเสพยาก็เป็นคนเลวคนไม่ดีคนน่ารังเกียจ เพราะเราคิดแบบนี้​ คนที่ถูกรังเกียจก็เลยระเบิดออกมากันบ่อยครั้ง เอาจริงๆนะครับไม่ได้ออกมาแก้ตัวแทนผู้ก่อเหตุนะ แค่อยากจะบอกว่าเราแทบจะไม่เคยมองมุมอื่นๆเลย​ ( มุมที่อาจจะเป็นประโยชน์​ในการป้องกัน​ในรายต่อๆไป)​

6. พอเรามองแต่มุมผู้เสียหาย​ มุมของการสูญเสีย​ แล้วพยามโยงไปถึงเรื่องเศรษฐกิจ​ เรื่องปากท้อง มันเลยยิ่งเลยเถิดไปไกล​ (ถึงแม้มันอาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกันก็ตาม)​ แต่สุดท้ายก็แก้อะไรไม่ได้สักที เพราะแก้ไม่ตรงจุด

และที่ผ่านมาเพราะสื่อทั้งหลายที่เอาคำสัมภาษณ์ผมไปบิดเบือนเพียงเพื่อขายข่าว​ และไม่คิดว่าจะทำอะไรเพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคมเลย เผลอๆ​ ให้สัมภาษณ์ทางวิชาการในเรื่องของความถูกต้องเหมาะสมแต่ดันไม่ถูกใจใคร ก็ถูกแชร์ลิงก์ข่าวเอาไปตั้งกระทู้ด่าอีก ประหนึ่ง เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง​ แถมกระดูกแขวนคออีก ผมถึงไม่อยากให้สัมภาษณ์อีกแล้ว​ เพราะสิ้นหวัง…กับสื่อบ้านเรา

ผมว่ามันไม่จำเป็นจะต้องมานั่งวิเคราะห์ 360 องศาหรอกเพราะปัญหาสังคมมันซับซ้อนมากเอาแค่เบื้องต้นควรจะต้องกลับมาคิดว่า

1.เวลาคนมีปัญหาสุขภาพจิตมีความเสี่ยงที่จะใช้ความรุนแรงในสังคมเราจะรับรู้ได้อย่างไร​ (early detection)

2. แล้วพอรับรู้แล้วจะมีกระบวนการช่วยเหลือกันป้องกันปัญหาที่จะตามมาอย่างไรบ้าง… เราใส่ใจกันจริงหรือเปล่าหรือคิดว่าธุระไม่ใช่หรือรีบตัดสินใครไปแล้วประณามใครไปแล้วก็เลยไม่สนใจ… สุดท้ายปัญหามันก็วกกลับมาอยู่รอบๆตัวเราอีกตามเคย

3.หน่วยงานภาครัฐมีใครบ้างที่จะช่วยดูแลเรื่องปัญหาสุขภาพจิตของคนในชุมชนความเสี่ยงในการใช้ความรุนแรง เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจเพราะมัวแต่จุดประกายเริ่มต้นของการใช้สื่อที่เต็มไปด้วยความรุนแรงกันตามโซเชียลมีเดีย สุดท้ายมันก็ลามปามออกไปนอกเหนือจากในจอโทรศัพท์

คอยดูสิครับ ผ่านไป 3 วัน 5 วัน​ พอข่าวซาลงทุกคนก็ลืมหมด อีกไม่กี่เดือนไม่กี่ปีก็เกิดเรื่องซ้ำๆแบบเดิมให้เราเศร้าใจกันต่อ มันคือวัฏจักร​แห่งความน่าสงสาร

 

เอาจริงนะผมไม่ได้คาดหวังอะไรกับรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยหรือหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะจากประสบการณ์ของตัวเองที่พยายามรณรงค์​เรื่องการป้องกัน​การใช้ความรุนแรงในสังคม ก็เห็นแล้วว่าคนทำงานเพื่อประเทศชาติมีน้อยมากจริงๆ ทั้งนักการเมืองและข้าราชการนั่นแหละ แถมนักการเมืองและข้าราชการบางคนก็เลียแข้งเลียขากันสนับสนุนให้มีสารเสพติดเกิดขึ้นแล้วนำไปสู่หายนะในอนาคตแล้วก็อ้างข้างๆคูๆหาเหตุผลมาสนับสนุนความถูกต้องของตัวเอง น่าเบื่อครับ

พวกเราคงต้องอยู่กันด้วยการสวดมนต์​ อยู่กันด้วยการปกป้องตัวเองตามลำพังแค่นั้นล่ะครับ ทำใจเถอะ แล้วก็เลิกโทษคนนู้นคนนี้ได้แล้วหันกลับมามองว่าตัวเองจะมีส่วนช่วยสังคมได้ยังไงบ้างแค่นั้นพอ ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น

ปล.​ ภาพปลากรอบ.. จิบกาแฟ เมนูโปรด​คลายเครียด ​คลายเศร้าครับ ลองทายดูว่าชื่ออะไร… ชื่อไม่ โสภา​แต่รสชาติกลมกล่อม​ และ จิตใจคนที่จิบยังคงโสภาอยู่นะ ฮะ ด้วยรักและห่วงใยสังคมไทยครับ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น