“ย้ายด่วน” หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ ยกระดับการปราบปราม “หมูเถื่อน” ลักลอบเข้าประเทศส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะผู้บริโภคที่อาจได้รับสารเร่งเนื้อแดงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตลอดจนบั่นทอนเสถียรภาพราคาเนื้อหมูในประเทศ ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
แหล่งข่าวจากกรมปศุสัตว์กล่าวว่ากรมฯ มีคำสั่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 โยกย้ายด่วนและให้มีผลทันที ในตำแหน่ง “หัวหน้าด่าน (นายสัตวแพทย์) ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี” กลุ่มควบคุม เคลื่อนย้ายและกักกัน สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่จังหวัดภูเก็ต และแต่งตั้ง “ผู้อำนวยการกองสารวัตรและกักกัน” คนใหม่ เพื่อให้การดำเนินภารกิจของกระทรวงฯและกรมปศุสัตว์ มีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่กำหนด
“หลังมีข่าวการลักลอบนำเข้าเนื้อหมู กระทรวงฯ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ ดำเนินการกวาดล้างหมูเถื่อนทันที ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการได้ผลในระดับหนึ่งแล้ว หลังการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงเข้ามารับตำแหน่งใหม่ จึงมีการโยกย้ายและปรับเปลี่ยนข้าราชการที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหน้าด่าน และการปราบปราม “หมูเถื่อน” อย่างเด็ดขาด” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวย้ำว่า ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายสนับสนุนการทำงานของข้าราชการให้เกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อปกป้องผลประโยชน์และความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ตลอดจนให้ความคุ้มครองผู้บริโภคและเกษตรกรไทยทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ กรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้ข้าราชการทุกด่านที่มีการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบและจับกุมอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีหมูเถื่อนลักลอบเข้าประเทศ และดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี
ที่ผ่านมาแม้จะมีการปราบปรามหมูเถื่อน แต่ก็ยังมีการลักลอบนำเข้าเล็ดลอดไปได้ ไม่สามารถตรวจสอบและจับกุมได้หมด สะท้อนประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่หน้าด่านยังไม่รัดกุม สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรไทย ตลอดจนความเสี่ยงของผู้บริโภคที่อาจได้รับสารเร่งเนื้อแดง ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและโรค ซึ่งเป็นสารที่กรมปศุสัตว์ห้ามใช้เด็ดขาด ตาม พรบ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ (ฉบับที่ 2) 2542
นอกจากนี้ หมูเถื่อนมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าต้นทุนของเกษตรกรไทย ทำให้เสนอขายในราคาต่ำมาก ทำลายความมั่นใจของเกษตรกรในการนำหมูเข้าเลี้ยงรอบใหม่ ซึ่งกระทรวงฯ ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณหมูให้กลับสู่ภาวะปกติภายในสิ้นปีนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร แต่หากยังมีการนำหมูเถื่อนเข้ามาจะทำให้กลไกตลาดด้านราคาบิดเบือน เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็จะไม่บรรลุผล ซึ่งกรมฯ เตรียมแผนปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ไว้เรียบร้อยแล้ว
