เร่งล่าสามีโหด ยิงภรรยาดับคาคอนโดฯ ก่อนหนีลอยนวล

ตำรวจ สน.ห้วยขวาง เร่งล่าตัวสามีวัย 60 ปี ก่อเหตุยิงภรรยาเสียชีวิตคาที่ ในลานจอดรถชั้นใต้ดินคอนโดแห่งหนึ่งย่านประชาอุทิศเหม่งจ๋าย หลังผู้ตายทนอารมณ์รุนแรงไม่ไหว หนีมาอยู่กับลูกสาวที่กรุงเทพฯ ก่อนขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป

เมื่อคืนวานนี้ (9ต.ค.65) เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ตำรวจ สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืน ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.จึงเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถ ชั้นใต้ดิน อาคารเอสอง พบศพนางครองกมล สุขสวัสดิ์ อายุ 47 ปี สภาพสวมชุดเดรส แขนยาวกางเกงขายาวสีครีม นอนคว่ำหน้ามีเลือดไหลนองเต็มพื้น อยู่ท้ายรถยี่ฟอร์ด รุ่นโฟกัส สีขาว ทะเบียน ฆฉ 655 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งโตโยต้า ยี่ห้อแคมรี่ สีขาว ทะเบียน 3กล 9037 กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้พบซองพกปืนสีดำใน 1 อัน ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 2 นัด ยังไม่ได้ใช้งานตกในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุชื่อนายสถาพร ขาวเผือก อายุ 60 ปี ได้คบหากับนางครองกมล อยู่กินฉันสามีภรรยา 2 ปี ที่จ.พัทลุง แต่ไม่มีลูกด้วยกัน ซึ่งผู้หญิงมีลูกติด 2 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 65 บุตรสาวไปหาแม่ จ.พัทลุง ทราบว่าแม่มีสามีใหม่และมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย ครอบครองอาวุธปืน กักขังหน่วงเหนี่ยว วันที่ 13 ส.ค. บุตรสาวได้พามาพักที่กรุงเทพภายในคอนโดดังกล่าว กระทั่งวันที่ 26 ส.ค. 65 ผู้ต้องหาได้มากรุงเทพฯเพื่อบังคับให้กลับ จ.พัทลุง ก่อนจะมีการเจรจากับบุตรให้นำตัวแม่มาคืนที่กรุงเทพฯ

จากนั้นฝั่งครอบครัวผู้ตายได้ทำการซ้อนแผนกับตำรวจทำการเข้าจับกุมหลังทราบว่าผู้ก่อเหตุพกพาอาวุธมาด้วย พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีข้อหากักจังหน่วงเหนียว ,พกพาอาวุธปืน จากนั้นผู้ต้องหาได้มีการประกันตัวในชั้นสอบสวนแล้วกลับไปที่ จ.พัทลุง แล้วทำการก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้ตายจนมีการแจ้งความออกหมายจับอีกคดี รวม 2 หมายจับ

กระทั่งเวลา 18.30 น.วานนี้ ผู้ตายและครอบครัวกำลังจอดรถบริเวณใต้ตึก ได้มีนายสถาพรซึ่งแอบซุ้มรออยู่ปรากฏตัวพร้อมอาวุธปืน พร้อมยิงใส่ทันทีแต่อาวุธขัดลำกล้อง บุตรสาวและมารดาตกใจจึงวิ่งหนีคนละทางแต่ผู้ก่อเหตุตามผู้ตายไปยิงบริเวณท้ายรถเสียชีวิตคาที่แล้ววิ่งหลบหนีออกไปทางด้านหน้าคอนโดแล้วขึ้นแท็กซี่หลบหนีไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ในขณะที่ผู้เห็นการณ์เล่าว่า เห็นคนก่อเหตุ วิ่งผ่านหน้าตนไปขณะที่ตนเองยืนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตอนนั้นฝนตกหนัก ตนเองก็ไม่ได้สนใจเพราะฝนตกหนักมาก จนมาเห็นจากกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่าเป็นคนที่ก่อเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า
มัสก์จี้ข้าราชการอเมริกันเขียนรายงานวันๆทำอะไรบ้าง
ผู้ปกครองพา "ด.ช.วัย 13" ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวสอง สร้างไอจีปลอม ลวงทำอนาจาร
"ทักษิณ" เอ่ยขออภัยเหตุการณ์ "ตากใบ" ปี 47 ลั่นไม่ตกใจ เหตุบึ้มรถในสนามบินนราฯ รับลงชายแดนใต้
“ทักษิณ” ลั่นปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องจบในรัฐบาลนี้ ยึดการพูดคุย เป็นแนวทางสร้างสันติสุข
เลขาธิการ สปส. แจงเสถียรภาพ "กองทุนประกันสังคม" ย้ำชัดสิทธิประโยชน์ดีเพิ่มขึ้นทุกปี
คึกคักสุดๆ แห่เที่ยวตามรอย "ลิซ่า" ในซีรีส์ The White Lotus 3 ทำยอดจองโรงแรมเกาะสมุยพุ่ง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น