สาวกพันธุ์แท้ธรรมกาย เปิดสาเหตุ “โน้ส อุดม” แค้น “บิ๊กตู่” ล่า “ธัมมชโย”

ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่อง สำหรับดราม่า “เดี่ยว 13” สแตนด์อัพคอมเมดี้ครั้งล่าสุดของ ‘โน้ส อุดม แต้พานิช’ ที่มีการพูดล้อเลียนการเมือง โดยเหยียดหยามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า เป็นรปภ.แต่ได้ขับเครื่องบิน และยังชื่นชมม็อบ 3 นิ้ว ที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์

การเดี่ยวไมโครโฟนด่าพลเอกประยุทธ์ครั้งนี้ของโน้ส อุดม ต้องบอกว่าโน้ส อุดมได้ล้อเลียนการเมืองและผู้นำประเทศรุนแรงกว่าเดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ผ่านๆมา ว่ากันว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้โน้ส อุดม เจ็บแค้นพลเอกประยุทธ์ มาจากการที่ โน้ส อุดม เป็นลูกศิษย์ตัวเอ้ของวัดพระธรรมกาย ซึ่งสังคมทราบกันดีว่าในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ วัดพระธรรมกายและ “พระธัมมชโย” เจ้าอาวาส ถูกทางการตรวจสอบและไล่ล่าจับกุมพระธัมมชโย ในคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดย “โน้ส อุดม” จะมีภาพไปร่วมงานที่วัดพระธรรมกายจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการธุดงค์ธรรมชัย และยังเคยบวชธรรมทายาทรุ่นที่ 19 อีกทั้งเจ้าตัวถึงขั้นเคยร่วมถวายที่ดินให้วัดด้วยความศรัทธา รวมถึงมีดวงแก้วธรรมชัยของวัดธรรมกายบูชาที่บ้าน นอกจากนี้ในการแสดงเดี่ยว 7 รอบวันมาฆบูชา โน้ส อุดม ยังได้สวมชุดอุบาสก พร้อมบอกบุญให้ผู้ชมการแสดงร่วมทำบุญกันเลยทีเดียว

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ด้วยความที่เป็นสาวกพันธุ์แท้ธรรมกาย ทำให้สังคมทราบกันดีว่า ผู้นำรัฐบาลที่อุ้มชูวัดพระธรรมกาย เช่น นายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไม่ถูกโน้ส อุดม ล้อเลียนบนเวทีเดี่ยวไมโครโฟนรุนแรงเท่ากับผู้นำที่กวาดล้างวัดธรรมกาย ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับธรรมกายก็ต้องย้อนไปตั้งแต่ยุครัฐบาลนายทักษิณ ที่ขณะนั้นกำลังถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขับไล่อย่างหนัก แต่วัดธรรมกายได้จัดม็อบไปชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อตอบแทนนายทักษิณ หลังจากนายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุดขณะนั้น ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาถอนฟ้องคดี พระธัมมชโย ยักยอกเงินและที่ดินที่บรรดาญาติโยมบริจาคให้วัด มูลค่ากว่า 959 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ปี 2549 ท่ามกลางข้อสงสัยมากมาย ทั้งที่คดีนี้ใช้เวลาสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2542 และเหลือเพียงการสืบพยานจำเลยอีก 2 นัด ที่สำคัญการถอนฟ้องคดีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายทักษิณ ไปปาฐกถาที่วัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 หรือ 1 เดือนก่อนหน้า ซึ่งทราบกันดีว่าเวลานั้นนายทักษิณต้องการใช้วัดพระธรรมกายที่มีลูกศิษย์จำนวนมากเป็นฐานการเมือง เพื่อต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตร

ต่อมาในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ถือเป็นช่วงที่รัฐบาลสนับสนุนวัดพระธรรมกายอย่างออกหน้าที่สุด เพราะได้สนับสนุนงานขชองวัดธรรมกายหลายงานด้วยกัน อีกทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรียังเข้าร่วมงานด้วย เช่น การจัดงานฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า งานนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นประธานฝ่ายฆาราวาสร่วมตักบาตรที่ถนนราชปรารภ , การจัดธุดงค์ธรรมชัย 1,000 รูป เดินธุดงค์ผ่านกลางเมืองหลวง เพื่ออัญเชิญรูปเหมือนทองคำแท้พระมงคลเทพมุนี ไปประดิษฐาน ณ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ,กระทรวงศึกษาธิการ ส่งเสริมให้ครูทั่วประเทศ 5 แสนคน ฝึกอบรมกับวัดพระธรรมกาย ,เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2554 พระธัมมชโย ยังได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชภาวนาวิสุทธิ์ อีกด้วย นอกจากนี้วันที่ 7 มิถุนายน 2555 กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ขนเจ้าหน้าที่และลูกจ้างอุทยานฯนับพันคนมาร่วมม็อบเสื้อแดงที่สภาฯ เพื่อหนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์แก้รัฐธรรมนูญ โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปรวมตัวกันคือ วัดพระธรรมกาย จากนั้นเดินทางไปที่สวนสัตว์ดุสิต ตรงข้ามอาคารรัฐสภา

แต่เมื่อเข้าสู่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ พระธัมมชโยเจ้าลัทธิธรรมกาย ถูกเปิดโปงว่าได้สมคบกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน จำกัด ร่วมกันฟอกเงินจากการทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนกว่าหมื่นล้านบาท โดยจากการสอบสวนของดีเอสไอพบว่า นายศุภชัย นำเงินจากการทุจริตไปให้พระธัมมชโยในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2552 ถึง 31 พฤษภาคม 2555 จำนวน 15 รายการ รวมเป็นเงินกว่า 714 ล้านบาท ซึ่งในปี 2560 ดีเอสไอได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบ เพื่อตรวจค้นและจับกุมพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน กว่า 20 วัน แต่ถูกพระลูกวัดและมวลชนต่อต้าน จนเกิดการปะทะกัน ทำให้พระธัมมชโยหนีหัวซุกหัวซุน ซึ่งจนแล้วจนรอดดีเอสไอก็ไม่สามารถจับกุมพระธัมมชโยได้จนถึงขณะนี้ โดยปฏิบัติการครั้งนั้นใช้เวลาทั้งหมด 23 วัน มีการดำเนินคดีอาญา 43 คดี หมายเรียก 316 ราย และมีคำสั่งต่างๆให้มารายงานตัว 80 ราย สิ่งที่เกิดขึ้นในต่อวัดพระธรรมกายใน 3 รัฐบาลข้างต้น จึงไม่ต้องแปลกใจที่โน้ส อุดม จะแค้นฝังหุ่นพลเอกประยุทธ์มากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง