- วันก่อนพรรคพลังประชารัฐเกิดกระแสข่าว “พรรคแตก” ส.ส.หลายคนหลายก๊วนเตรียมย้ายออกจากพรรค มีข่าวเรื่อง “เลือดไหล” หลายคนเตรียมลาออกก่อนหน้าการเลือกตั้ง ดีเดย์วันสุดท้ายที่มีโอกาสเกิดรายการ “ผึ้งแตกรัง” คือ 24 ธ.ค.2565 ก่อนหน้าครบ 90 วันที่จะครบวาระสภาผู้แทนราษฎร 4 ปีในวันที่ 23 มี.ค.2566 ที่ต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อนจะมีการเลือกตั้งหากไม่มีการยุบสภา ข่าวว่ามีหลายก๊วนเตรียมตีกรรเชียงทิ้ง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไปอยู่ค่ายอื่น กลุ่มที่อยู่ในข่ายนี้ก็มี 1. 8 ส.ส.ที่เดินทางไปร่วมงานวันเกิดครบรอบ 64 ปี “ครูใหญ่เน” เนวิน ชิดชอบ 2. กลุ่ม 4 ส.ส.กทม.ภายใต้การนำของจักรพันธ์ พรนิมิตร ประธานส.ส.กทม. ที่มีข่าวว่าถูก “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตแกนนำพลังประชารัฐในอดีต ตามจีบไปร่วมงานที่พรรคภูมิใจไทยหวังเปิดพื้นที่ใหม่ของพรรคในกทม. 3. กลุ่มบ้านริมน้ำของสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีข่าวเตรียมย้ายกลับพรรคเพื่อไทยไปอยู่กับ “นายใหญ่-นายหญิง” หลังออกอาการฟาดงวงฟาดงา อัดนายกฯแซะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในสภามาตลอดช่วงหลังๆ 4. กลุ่ม 6 ส.ส.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการภายปีกของ “เสี่ยเอ๋” ชนสวัสดิ์ อัศวเหม ที่สนิทสนมแนบแน่นกับ ป.ที่ 4 และเป็นพันธมิตรที่ดีกับกลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรีของ “เสี่ยแป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม แต่ขบเหลี่ยมกับขั้ว “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ผอ.พรรคพลังประชารัฐ ที่สุดจึงกลายเป็นกระแสข่าวให้พรรคพลังประชารัฐเกิดแรงกระเพื่อม
ความวัววยังไม่หายความควายเข้ามาแทรก เพราะการประชุมครม.เมื่อ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดกรณีพิพาทในวงประชุมครม. โดยระหว่างประชุมฝ่าย “เสี่ยสันติ” สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ได้ทักบิ๊กตู่ว่าปีนี้น้ำท่วมใหญ่คนเดือดร้อนมาก อยากให้นายกฯสั่งการให้รมต.แยกย้ายลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน เท่านั้นแหละเป็นเรื่องขึ้นมาทันที เพราะบิ๊กตู่สวนกลับมาในบัดดลว่า ” รัฐมนตรีแต่ละคนรู้หน้าที่รับผิดชอบดีอยู่แล้ว เวลาไปลงพื้นที่รับเรื่องเดือดร้อนของชาวบ้านมาอย่าเพิ่งรับปากประชาชน ขอให้มาดูงบประมาณก่อน ล่าสุดที่ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ได้มีเกษตรกรยาสูบมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับงบประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งที่พอตรวจสอบไปที่สำนักงบประมาณแล้ว ทราบว่าได้มีการอนุมัติงบไปแล้ว และเงินตรงนี้ไปไม่ถึงชาวบ้าน” นายกฯเปิดประเด็นซัดสันติเลย ทั้งนี้หลังพูดจบบิ๊กตู่ยังได้ฝากให้ลุงป้อมไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่าเงินหายไปไหน ทำไมไม่ถึงมือชาวบ้าน งานนี้ถึงกับทำให้สันติที่นั่งอยู่ถึงกับ “คอแห้ง” และ “ใบ้แดก” เพราะเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลเรื่องยาสูบอยู่ แถมเป็นส.ส.เพชรบูรณ์ด้วยไปๆมาๆเรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สื่อหยิบมานำเสนอเอามาตามต่อกันเพราะไม่บ่อยครั้ง ที่บิ๊กตู่จะฟาดแซ่ลงดาบคนในเรือแป๊ะกันเองแบบจังๆ ถ้าไม่มีเงื่อนงำจริงๆ ก็แปลกที่จู่ๆบิ๊กตู่จะเม้งแตกสันติแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ มาเบรกกันเองกลางครม.แบบนี้มันไม่ใช่วิสัยของบิ๊กตู่แน่นอน ต้องมี “ประเด็น” อะไรบางอย่างแน่นอนที่ทำให้นายกฯฉุนขาดไม่พอใจ
ระหว่างที่ฝุ่นกำลังตลบ อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะโฆษกรัฐบาลออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระเป็นไปตามมติครม. 19 เม.ย. 2565 ซึ่งได้อนุมัติงบกลางปี 2565 จำนวน 159.69 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระในฤดูการผลิต 62/63 ที่ร่วมโครงการ จำนวน 14,292 ราย สำนักงบประมาณได้จัดสรรเงินงบกลางไปให้เรียบร้อยแล้ว โดยการยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการจ่ายให้กับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ โครงการฯ ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จำนวน 12,936 ราย เป็นเงิน 125.0953 ล้านบาท (ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ 1,356 ราย) และมีวงเงินคงเหลือจากกรอบที่อนุมัติ จำนวน 34.5947 ล้านบาท ซึ่งการยาสูบแห่งประเทศไทย แจ้งคืนเงินงบกลางฯ ดังกล่าวแล้ว ” ต่อกรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ (เบอร์เลย์) จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้มีข้อร้องเรียนต่อนายกฯ พบว่า การยาสูบแห่งประเทศไทยได้รับเรื่องจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาให้การช่วยเหลือ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จ จะเสนออัตราการเยียวยาต่อรมว.คลังพิจารณาโดยด่วนต่อไป ” โฆษกรัฐบาลระบุ
งานนี้ถ้านายกฯไม่ได้ข้อมูลมาผิดก็อาจเป็นเพราะเกษตรกรงงกับการช่วยเหลือ หรือไม่ก็อาจมีการหีบวานชักเปอร์เซ็นต์เข้ากระเป๋ากันจริงๆไม่งั้นนายกฯคงไม่กล้าโวยกลางที่ประชุมครม.ให้เป็นประเด็น แต่ไม่รู้ว่ารั่วตรงไหนรั่วตรงใครรั่วอย่างไร อย่าลืมว่าช่วงนี้มีการอนุมัติงบประมาณจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านกับเกษตรกรที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม แถมใกล้ช่วงเลือกตั้งนับถอยหลังไม่เกิน 6 เดือน เป็นธรรมดาที่กระสุนเสบียงกรังจะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับนักการเมืองทุกคน พรรคการเมืองทุกพรรค เพราะเลือกตั้งแต่ละครั้งหาเสียงแต่ระรอบต้องใช้เงินมหาศาล เท็จจริงเรื่องนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่หลังเกิดปัญหานี้ขึ้นมาสันติในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐน่าจะถูกสังคมตั้งคำถามอยู่พอสมควร ไปๆมาๆทั้งนายกฯทั้งรัฐบาลทั้งพรรคพลังประชารัฐก็คงได้ผลกระทบเสียหายพอๆกัน ประมาณ “หยิกเล็บเจ็บเนื้อ” ไม่มีผลดีกับทุกฝ่าย หลังเกิดเรื่องนี้ทั้งบิ๊กป้อมทั้งลุงตู่ต่างไม่ยอมปริปาก พูดมากอาจกลายเป็นการสาวไส้ให้กากิน อย่าลืมสันติคือสายตรงลุงป้อม แถมอดีตก็เป็น 1 ใน 3 ของก๊วน 3 ป. ที่ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ก่อนก๊วนแตกแยกย้ายกันในที่สุด จนสันติหนีร้อนมาพึ่งเย็นอยู่กับลุงป้อม อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด 2565 ก็ตกเป็นเป้าใหญ่โจมตีของพรรคฝ่ายค้านแม้แต่พรรคเล็กก็จ้องเชือดสันติเช่นกัน ปมเรื่อง 50 ล้านช่วยเกษตรกรปลูกยาสูบเรื่องจริงเป็นอย่างไรยังไม่มีใครรู้ แต่ถ้าไม่มีมูลคนอย่างบิ๊กตู่ผู้นำรัฐบาลคงไม่เอามาพูด สันติกับนายกฯมีอะไรในใจ ขบเหลี่ยมเรื่องอะไรหรือป่าวกันไม่รู้ แต่งานนี้พรรคพลังประชารัฐ สันติ ลุงป้อม บอกได้เลยว่าอ่วมอรทัย
//////////////////