กู้ภัยผวา! หลังช่วยอุบัติเหตุครอบครัวติดโควิดรถคว่ำเสียชีวิต2เจ็บ4

สุพรรณบุรี กู้ภัยผวาช่วยครอบครัวติดโควิดกลับไปรักษาที่บ้านรถคว่ำเสียชีวิต2เจ็บ4 สั่งให้กักตัวทีมกู้ภัยทั้งหมดเกือบ 20 คน

ที่ จ.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.จิระศักดิ์ ดวงใจดี พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุรถชนต้นไม้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บติดภายในหลายรายที่ถนนสาย 340 สุพรรณ-ชัยนาท หมู่ 3 ต.วังน้ำซับ ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ศรีประจันต์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี นำอุปกรณ์ตัดถ่างรุดไปช่วยเหลือ พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทะเบียน ถค 2107 กรุงเทพมหานคร ชนต้นไม้ขนาดใหญ่ริมร่องกลางถนนล้ม รถกระบะพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและข้าวของกระจายเกลื่อนพื้น ทีมช่วยเหลือได้รีบสวมชุด PPE ป้องกันเชื้อโรคตามมาตรการพร้อมกับฉีดพ่นยาฆ่าก่อนเข้าทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจำนวน 4 รายเป็นชาย 4รายเป็นเด็กชาย 2 รายนำส่งโรงพยาบาลศรีประจันต์ ให้แพทย์ตรวจรักษาเป็นการด่วน และภายในรถมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ 2 รายเจ้าหน้าที่ต้องประสานรถเครนมาช่วยยกรถกระบะพลิกตั้งก่อนใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถที่พังยับเยิน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถกระบะคันดังกล่าวมีนายชูเกียรติ  ยี่แก้ว อายุ 47 ปีเป็นคนขับพาครอบครัวและญาติประกอบด้วยนายจำนงค์  สุบานงาม อายุ 36 ปีน.ส.วันเพ็ญ  จอมภา อายุ 42 ปี น.ส.สายทอง ไม่ทราบนามสกุลและอายุ ด.ช.สิทธิ์ศักดิ์  สุบานงาม อายุ 13 ปีและ ด.ช.กฤษฎา วิระแสง อายุ 7 ปีเดินทางมาจากที่ทำงานเขต บางขุนเทียน กทม.เนื่องจากไปตรวจหาเชื้อโควิด พบผลตรวจเป็นบวกกันทั้งหมด รวม 4 คนจึงตัดสินใจพากันกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดที่ กิ่ง อ.ภูซาง จ.พะเยา เนื่องที่ทำงานไม่มีสถานที่ให้รักษาตัว โดยขับรถมาตามถนนสายดังกล่าว

ถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักชนต้นไม้ริมร่องกลางถนนอย่างแรง ก่อนจะพลิกหงายท้องจนรถพังยับเยินทำให้มีคนเสียชีวิต 2 รายคือ น.ส.วันเพ็ญ  และ น.ส.สายทอง ส่วน ด.ช.กฤษฎา อาการสาหัส ต้องส่งไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ส่วนที่เหลือบาดเจ็บปานกลาง ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง2รายต้องรีบดำเนินการทำพิธีฌาปนกิจ อย่างเร่งด่วนที่วัดเถรพลาย อ.ศรีประจันต์  ส่วนทีมกู้ภัยและผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางผู้บริหารมูลนิธิเสมอกัน ได้มีคำสั่งให้กักตัวทั้งหมดเกือบ 20 คน จากการสอบถามไปทางโรงพยาบาลเบื้องต้นอยู่ระหว่างสอบสวนว่าใครที่มีความเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ เนื่องจากทีมที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือส่วนมากจะสวมชุดป้องกันและมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนอย่างไรก็ตามจะได้พิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ชาวเสื้อแดงอีสาน" พอใจ "ทักษิณ" พาเพื่อไทยคว้าเก้าอี้ "นายก อบจ." มากถึง 18 จังหวัด
ไหนแตงโม! “เต้” งัดกล้องซังฮี้ 5 ตัวรวด ไม่มีคนนั่งท้ายเรือ-นับยังไงก็ไม่ถึง 6
เปิดใจ 'สุพิศ พิทักษ์ธรรม' คว้าชัยนายก อบจ.สงขลา ด้วยคะแนนท่วมท้น พร้อมพลิกฟื้นบ้านเกิดด้วย 5 นโยบาย ให้ยั่งยืน
เพจดังแฉหลักฐาน IO ส้มเวียดนามบุกเมนต์ไทยฉ่ำ ฉุนแพ้นายกอบจ.ภูเก็ต
ตำรวจปานามาปะทะเดือดกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรูบิโอ้
"นายกฯ" คุยรายการครั้งแรก "โอกาสไทย" ยันแจกหมื่นเฟส 3 ย้ำผลงานบัตรทองทำครบ 77 จว. เร่งบ้านเพื่อคนไทย
ชายแดนตึงเครียด! จนท.ตรึงเข้ม 371 Km คอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานบุกพญาตองซู
รมว.ต่างประเทศสหรัฐไปปานามาหลังทรัมป์ขู่ยึดคลอง
รวบอดีตอัยการ เบี้ยวนัดฟังคำพิพากษา คดีรับสินบน 1 แสนบาท ช่วยผู้ต้องหา คดียาเสพติด
"ซูเปอร์โพล" เผยผลสำรวจคนไทยหนุนตัดไฟประเทศเพื่อนบ้าน แก้อาชญากรรมข้ามชาติ เชื่อลดปัญหาได้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น