อ่วม ศาลจำคุก 9 ปี “ภัคภิญญา” แนวร่วม 3 นิ้ว คดี 112 โชคดีได้ประกัน

อ่วม ศาลจำคุก 9 ปี "ภัคภิญญา" แนวร่วม 3 นิ้ว คดี 112 โชคดีได้ประกัน

วันที่ 19 ต.ค. 65 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลจังหวัดนราธิวาสนัดฟังคำพิพากษาในคดีของ “ภัคภิญญา” (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อดีตบรรณารักษ์ห้องสมุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ผู้ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีถูกกล่าวหาว่าแชร์โพสต์ในทำนองหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ จำนวน 6 โพสต์ ช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ต่อเนื่องถึงเดือนเมษายน 2564 ซึ่งทั้งหมดภัคภิญญาได้แชร์โพสต์ของบรรดาผู้สนับสนุนม็อบ 3 นิ้ว และแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ก่อนให้ความเห็นพาดพิงเบื้องสูงเพิ่มเติมอีก

ซึ่งภัคภิญญาต่อสู้ว่า ผู้ที่กล่าวหาได้แคปหน้าจอแล้วนำมาแจ้งความร้องทุกข์นั้น ขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากผ่านการตัดต่อ แก้ไข และเปลี่ยนแปลงข้อมูลมาแล้ว รวมถึงชี้ให้เห็นว่า มีการใช้กฎหมายมาตรา 112 เป็นเครื่องมือที่ใช้กลั่นแกล้งผู้เห็นต่างทางการเมือง โดยสถิติการดำเนินคดีสัมพันธ์ไปกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนั้นๆ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามศาลพิจารณาแล้วมีพิพากษาว่า จากหลักฐานพยานฝั่งโจทก์ปรากฎว่า ภาพเฟซบุ๊ก และทะเบียนราษฎรตรงกับของจำเลย รวมถึงปรากฎร่องรอยดิจิทัลเกี่ยวกับตัวจำเลยจำนวนมากบนสื่อโซเชียลมีเดีย โดยจำเลยไม่ได้นำสืบว่า จำเลยไม่ได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้มีการแจ้งความว่ามีบุคคลอื่นแอบอ้างใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวหรือไม่ ที่สำคัญการที่จำเลยนำสืบว่าข้อความตามฟ้องทั้ง 6 ข้อความเป็นการตัดต่อ โดยการนำภาพข้อความตามฟ้องใส่โปรแกรม word ซึ่งเป็นการจัดทำพยานหลักฐานทั่วไป จำเลยไม่ได้นำสืบว่ามีความผิดปกติเพิ่มเติมอย่างไร ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กและเป็นผู้นำเข้าข้อความตามฟ้องจริง ดังนั้นศาลต้องพิจารณาว่าข้อความดังกล่าวเป็นความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 14 (3) ลงโทษกระทงละ 3 ปี รวมจำนวน 3 กระทง รวมลงโทษจำคุก 9 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนอีก 3 กระทงไม่เข้าข่ายความผิด

หลังศาลอ่านคำพิพากษา “ภัคภิญญา” ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปควบคุมไว้ที่ห้องขังของศาล ขณะเดียวกันทนายความได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์คดี ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันเพิ่มเติมอีก 50,000 บาท จากเดิมที่เคยวางไว้ระหว่างการสั่งฟ้องคดีจำนวน 150,000 บาท รวมเป็นใช้หลักทรัพย์ประกันในชั้นนี้ 200,000 บาท ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์

 

สำหรับคดีนี้เป็นหนึ่งในคดีมาตรา 112 อย่างน้อย 8 คดีที่นายพสิษฐ์ จันทร์หัวโทน ติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.สุไหงโก-ลก โดยคดีเหล่านี้ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีใครอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ โดยขณะนี้ศาลจังหวัดนราธิวาสทยอยมีคำพิพากษาไปแล้ว 4 คดี ได้แก่ คดีของอุดม, คดีของ “กัลยา”, คดีของ “วารี” และคดีของภัคภิญญา โดยมีเพียงคดีของวารีซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เวียงแหงโมเดล! เยาวชนคนรุ่นใหม่ One Young World เครือซีพี ปักธง FIGHT หมอกควันชายแดนไทย-พม่า เรียนรู้-ชวนชุมชมร่วมลด PM 2.5
ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล
กรมวิทย์ฯ บริการ มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน 2568 ..ฟรี !! ฝึกอบรมเสริมทักษะด้าน วทน. ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นขอการรับรองทุกขอบข่าย เสริมความสามารถของห้องปฏิบัติการไทยสู่สากล
"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น