รักษาการเลขาฯกสทช. แจงผลศึกษาตปท. ยันคุมราคาได้ รอสรุปผนึก TRUE-DTAC

รักษาการเลขาฯกสทช. แจงผลศึกษาตปท. ยันคุมราคาได้ รอสรุปผนึก TRUE-DTAC

ก่อนที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.65) นั้น

ปรากฏว่า ได้มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็น ทั้งฝั่งเห็นด้วย และคัดค้าน รวมทั้งยังมีเอกสารหรือข้อมูลหลุด เกี่ยวกับรายงานผลการศึกษาของที่ปรึกษาต่างประเทศ บริษัท SCF Associates Ltd. ออกมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ทีมข่าว TOP NEWS ได้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. ถึงรายงานผลการศึกษาของที่ปรึกษาต่างประเทศ ว่า ในส่วนของข้อมูลที่ตนได้รับ เจ้าหน้าที่สรุปมาให้ดูเป็น Executive Summary ซึ่งได้อ่านเอกสารคร่าวๆ เพราะมีข้อมูลจำนวนมาก โดยในส่วนของข้อมูลทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะสรุปขึ้นไปให้บอร์ด กสทช. พิจารณาส่วนจะนำมาใช้หรือไม่ ก็แล้วแต่บอร์ดกสทช.

โดยในส่วนของรายงานผลการศึกษาฯ ที่เผยแพร่ออกมาบางส่วนนั้น นายไตรรัตน์ ระบุว่า ข้อมูลไม่น่าจะครบ การที่มีบางฝ่ายออกมาบอกว่า เมื่อควบรวมแล้วจะเกิดอย่างโน้นอย่างนี้ นี่คือสิ่งที่คาดการณ์กันไป อย่างไรก็ตาม ก็จะมีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิด เข้าใจว่าเขาไม่น่าเอามาตรการในการป้องกันมาให้ดู ทั้งนี้ คิดว่าที่ปรึกษาต่างประเทศ จะมีมาตรการในส่วนนั้น เพราะตามหลัก ที่ปรึกษาต้องแนะนำว่าการศึกษาแล้วมีอย่างโน้นอย่างนี้จะเกิดขึ้น จะต้องทำอย่างไรเพื่อแก้ไข

ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื้อหาของผลการศึกษาฯ ตรงกับที่มีการนำข้อมูลเอกสารมาเผยแพร่หรือไม่ นายไตรรัตน์ กล่าวว่า เนื้อหาเป็นสิ่งที่คาดการณ์กันไป “สิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเกิดขึ้น” เมื่อถามว่าราคาจะขึ้นไหมทุกวันนี้ เราก็มีกสทช. กำกับดูแลเรื่องราคาอยู่แล้ว ก็ไม่มีการปรับขึ้นราคา นั่นคือเหตุผลที่ทำไมต้องมีหน่วยงานกำกับดูแลที่ตั้งขึ้นมา เพราะต้องมากำกับดูแลในเรื่องพวกนี้ ซึ่งจะต้องดูแลทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมไม่ให้เกิดผลกระทบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“เพราะฉะนั้น มั่นใจว่าไม่ว่าจะควบรวมหรือไม่ควบรวม ผมก็ไม่ทราบ แล้วแต่ท่านคณะกรรมการ แต่เรื่องราคาต้องอยู่ในความดูแลของเราอยู่แล้ว ที่ผ่านๆ ของเรา เป็นราคาที่ถูกมากๆ ในอาเซียนน่าจะถูกที่สุดแล้ว “ นายไตรรัตน์ กล่าว

ส่วนกรณี น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ยื่นหนังสือถึงกสทช.เมื่อวันที่ 18 ต.ค. แล้วระบุตอนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องเพดานราคา ว่าไม่ได้มีความหมาย เพราะขณะนี้ กสทช. ได้ใช้เพดานราคาจากค่าเฉลี่ยที่บริษัทแจ้ง ทำให้ราคาที่ผู้บริโภคจ่ายไม่เคยน้อยกว่าราคาเพดานสูงสุดเลย

นายไตรรัตน์ ยืนยันว่า กสทช.มีเพดานราคาอยู่ ที่ออกโดยกสทช. และทุกวันนี้เหมือนผู้ประกอบการทุกเจ้าก็ต่ำกว่าเพดานราคาเราอยู่แล้ว สมมุติถ้ามีการควบรวมเกิดขึ้นเราก็จะเข้าไปกำกับดูแล แล้วก็อาจจะทำให้ลดราคาลงอีก พร้อมย้ำ “กสทช.ดูแลผู้บริโภคอยู่แล้ว”

ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอผ่านสื่อ ระบุว่า ที่ปรึกษาอิสระต่างประเทศ ไม่ได้เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาในกิจการโทรคมนาคม แต่ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ และมีทรัพย์สิน คิดเป็นเงินไทยแค่ประมาณ 1 ล้านบาทเท่านั้น และไม่พบว่ามีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เกี่ยวกับการรวมธุรกิจในกิจการ มีเจ้าของบริษัทเพียง 1 ราย และผู้บริหารมีเพียง 1 ราย อีกทั้งไม่มีระบุถึงประสบการณ์ของบริษัทด้านโทรคมนาคมในต่างประเทศ นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่โดยธรรมชาติ เวลาที่ก็กสทช.จะจ้างบริษัทหรือจ้างที่ปรึกษา ต้องเป็นไปตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง อยู่แล้วเวลาจัดซื้อจัดจ้าง เพราะฉะนั้นต้องเป็นบริษัทที่ได้มาตรฐาน แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นเพียงข้อมูลเพื่อมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการไม่ได้หมายความว่า ”ทุกอย่างที่หลายฝ่ายพูด หรือเขียน เราจะต้องไปทำตาม” เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาเท่านั้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

โดยตอนที่มีการจ้าง ทางกสทช. ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังก่อนแล้ว ปกติแล้วหลักเกณฑ์คือ ต้องจ้างที่ปรึกษาในไทย ยกเว้นว่ามันมีเหตุจำเป็นจริงๆ จึงอนุญาตให้จ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งเราได้หารือทางกระทรวงการคลังแล้วบอกว่า เคสแบบนี้สามารถที่จะจ้างได้ เราถึงจ้าง แต่ว่าความเป็นมาตรฐานต้องมี ไม่มีไม่ได้ ส่วนเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่ คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อยู่ที่ว่าจะมีใครเข้ามาประกวดราคาบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สามารถเชื่อมั่นได้ในบริษัทนี้ ซึ่งกสทช. ได้คัดเลือกมาอย่างรอบคอบแล้ว นายไตรรัตน์ ระบุว่า เชื่อมั่นได้อย่างที่เรียนว่าข้อมูลทุกอย่างจะนำมาเพื่อประกอบการพิจารณา

 

 

ส่วนในวันที่ 20 ต.ค.นี้ จะได้ข้อยุติอย่างที่บอร์ดกสทช. ได้เคยระบุไว้หรือไม่ นายไตรรัตน์ กล่าวว่า คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะบอร์ดพูดกันเองในที่ประชุมคราวที่แล้วว่า จะจบทุกอย่าง วันที่ 20 ต.ค. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ปัจจุบัน มีหลายฝ่ายออกมาทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายค้าน รวมถึงมีเอกสารรายงานผลการศึกษาจากที่ปรึกษาต่างประเทศ หลุดออกมา ในส่วนนี้คิดว่าในวันที่ 20 ต.ค. หากได้ข้อยุติแล้ว จะทำให้เกิดข้อข้อกังขาในกสทช. หรือไม่นายไตรรัตน์ ระบุว่า กสทช.ต้องทำตามระเบียบที่มี ประกาศที่มี คือ ทำตามกฎหมาย ถ้าสมมติว่าประกาศบอกแบบนี้มันก็ต้องไปแนวนี้ถ้าไม่ทำก็ผิดระเบียบ

“ ถ้าสมมุติว่าให้เขาควบรวมแล้ว เรารู้สึกว่ามันจะเกิดนู่นนี่นั่น เราก็ออกมาตรการป้องกันขึ้นมา ผมมั่นใจว่าทุกท่านจะทำตามระเบียบ ถ้าใครไม่ทำตามระเบียบ ก็มีระเบียบไว้ทำไมก็คงทำตามระเบียบที่มี” รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. กล่าว

เมื่อถามถึง ความเป็นไปได้ที่การพิจารณาวาระควบรวมกิจการ TRUE- DTAC มีโอกาสจะยืดเยื้อออกไปอีกหรือไม่ นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ เพราะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน แต่ยืนยันว่าข้อมูลก็ครบหมดแล้ว และวันนั้นท่านก็พูดกันเองในห้องประชุมว่าจะจบ

นายไตรรัตน์ กล่าวในตอนท้ายว่า การควบรวมไม่ว่าจะเกิดหรือไม่เกิด สมมุติว่า ทุกวันนี้ AIS คือเบอร์หนึ่ง ถ้าเบอร์ 2 สู้กับเบอร์หนึ่งไม่ค่อยได้ หรือได้บ้างไม่ได้บ้าง เบอร์ 3 สู้ไม่ได้เลย มันก็จะต้องตายไป แต่อย่างที่เคยเรียนว่า ใบอนุญาตมาจากการประมูล เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการที่ลงทุนไปแล้ว ถ้าดูแล้วคิดว่าสู้ไม่ได้ เขาก็อาจจะต้องหาพันธมิตรทางการค้ามาผนึกกำลังเพื่อสู้ ซึ่งมองว่า ถ้าเขาแข็งแรงขึ้นมา และสู้กันมันค่อยสมศักดิ์ศรีหน่อยไหม “แต่ยืนยันว่าทุกอย่างต้องทำตามระเบียบ ถ้าระเบียบไม่ให้รวมก็คือไม่ให้รวม”

นายไตรรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของแบรนด์ไทย เท่าที่จำได้ยังไม่มีแบรนด์ไทยไปสู่ระดับโลก ไม่เหมือนซัมซุง โซนี่ ถ้ารวมกันแล้วอีกหน่อยแบรนด์ AIS แบรนด์ TRUE อาจจะเป็นบิ๊กเนมก็ได้ เพราะกำลังเยอะขึ้น จะทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมก้าวไกลสู่ระดับอาเซียนระดับโลกมากขึ้น การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมก็จะทำให้รายได้เข้าประเทศ ถ้ามีการทำแอพพลิเคชั่นดีดี แบรนด์ดีดีออกไปขายทั่วโลก ก็มีรายได้เข้าประเทศ

ส่วนวันที่ 20 ต.ค.นี้ เมื่อบอร์ดกสทช. ประชุมเสร็จแล้ว จะมีการแถลงข่าวหรือไม่ นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ถ้าได้รวมก็แถลงข่าวไม่ได้รวมก็แถลงข่าว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะแถลงข่าวหรือไม่ต้องอยู่ที่บอร์ดอนุญาตให้แถลง หรืออาจจะลงมาแถลงเองก็ได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุ่มค้างค่าเช่าหลักหมื่น ทิ้งขยะกองโตท่วมห้องไว้ให้เจ้าของหอดูต่างหน้า
"ศาลอุทธรณ์" ยืนโทษคุก 8 เดือน "สมบัติ ทองย้อย" อดีตการ์ดเสื้อแดง โพสต์หมิ่น "พล.อ.ประยุทธ์" 2 ข้อความ
สพฐ. ชูศึกษานิเทศก์ทั้งประเทศ กลไกขับเคลื่อน "เรียนดี มีความสุข" สร้างคุณภาพสู่ห้องเรียน
“เต้ อาชีวะ” เดือด! จัดหนัก UN ปล่อยต่างด้าวล้นรพ.รัฐ แย่งคิวคนไทย
ปัตตานีระทึก คนร้ายชักปืน จี้ "พนง.ร้านสะดวกซื้อ" ชิงเงินสด 1.2 ล้าน หนีลอยนวล
เตรียมพบเทศกาลนานาชาติ พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 "จันทบุรีนครอัญมณี" ปีที่ 5 ชูเอกลักษณ์เมืองจันท์ อัญมณีอันเลื่องชื่อ
“สมศักดิ์” นำร่อง “ตู้ห่วงใย” บริการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชน ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ 
"พงษ์ศักดิ์" ยื่นร้องกกต. ขอระงับรับรองผลเลือกตั้งนายกอบจ.ขอนแก่น ชี้พบเหตุหาเสียงส่อผิดกม.
“กฤษอนงค์” ไร้เงาคนยื่นประกัน นอนคุกคืนแรก ด้าน “บอสพอล” มอบทีมกม.ยื่นค้านประกันตัว
‘ทะเลสาบน้ำเค็ม’ โผล่กลางทะเลทรายในมองโกเลียใน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น