นักวิชาการแนะยึดกฎหมายสรุปผนึก TRUE-DTAC มีอำนาจเต็มคุมค่าบริการ

นักวิชาการโทรคมนาคม ชี้ชัดกสทช.ฝืนกฎหมายได้ไม่คุ้มเสีย กรณีรวมทรู-ดีแทค เตือน กสทช.ต้องทำหน้าที่ตามอำนาจที่กฎหมายกำหนด หากสวนทางกฎหมาย อาจเกิดความผิด

สืบเนื่องจากวันนี้ (20 ต.ค.65) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) อีกครั้งหลังจากกรณีดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ มานานกว่า 8 เดือนแล้ว นับตั้งแต่ทั้งสองบริษัทได้ยื่นรายงานการรวมธุรกิจต่อเลขาธิการ กสทช. ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2565

โดยทางสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้มีการเชิญชวนให้ผู้ใช้ผู้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ค่ายไปรวมตัวแสดงพลังคัดค้าน อ้างเพื่อว่าป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ นางสาว ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็แจ้งจะเดินทางไปร่วมสังเกตการณ์การลงมติควบรวมทรู-ดีแทค ที่สำนักงานกสทช. ด้วยเช่นกัน หลังจากก่อนหน้าส.ส.ก้าวไกล ได้ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับสภาองค์กรของผู้บริโภคมาโดยตลอด

ล่าสุด นายสืบศักดิ์ สืบภักดี นักวิชาการด้านโทรคมนาคม กรรมการบริหารและเลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สทค.) ได้ให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า อำนาจหน้าที่ของ กสทช.ในการพิจารณาเรื่องการควบรวมที่เกิดขึ้น กสทช.มีบทบาทที่จะต้องพิจารณาในหลายมิติ ทั้งด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ค่าบริการ และการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเมื่อพิจารณาตามกรอบกฎหมายจะพบว่ากรณีการควบรวมในลักษณะนี้ ระบุไว้ชัดเจนในประกาศ กสทช.ปี 2561 ซึ่งให้ กสทช.มีอำนาจใจการพิจารณารายงานของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต ในกรณีที่มีประสงค์จะควบรวม ซึ่งรายงานนี้ยังมีการกำหนดว่าต้องทำได้ทั้งก่อนควบรวมและหลังควบรวม โดย กสทช.มีอำนาจเต็มในการออกมาตรการเสริมเพิ่มเติม ถ้าสังคมมีความกังวลเรื่องของค่าบริการ คุณภาพการให้บริการ และการดูแลลูกค้า

“เรื่องนี้ตามกฎหมายจะพิจารณาโดยให้มติหรือไม่อนุมัติไม่ได้ แต่ กสทช. มีอำนาจเต็มที่ในการออกประกาศเพิ่มเติมได้หากเห็นว่าสังคมมีความกังวลเรื่องค่าบริการ คุณภาพการให้บริการ และการดูแลลูกค้า เพื่อให้เกิดความสมดุลในอุตสาหกรรมและการคุ้มครองผู้บริโภค” นายสืบศักดิ์ กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ นายสืบศักดิ์ ยังกล่าวย้ำด้วยว่า ทราบดี กสทช. ต้องพิจารณาเรื่องนี้โดยรอบคอบเพราะอยู่ในความสนใจของประชาชนและผู้ใช้บริการ จึงมีการตั้งคณะทำงานและอนุกรรมการเพื่อศึกษาหลายด้าน แม้ว่าอนุกรรมการบางชุดมีผลการศึกษาที่เห็นแล้วเกิดข้อคำถาม เช่น ค่าบริการที่จะขึ้นไป 200% โดยความเป็นจริงเป็นกลไกจากการคำนวณ

แต่ในชีวิตจริง หากค่าบริการขึ้นไป 200% นั่นแสดงว่าจะต้องไม่มีกสทช. อยู่ เพราะกสทช. มีกลไกที่จะกำกับและควบคุมเพดานราคา แม้อนุกรรมการเป็นผู้ทำข้อมูล แต่ผู้ตัดสินใจก็เป็นกรรมการ และยังมีการว่าจ้างบริษัทภายนอกหรือแม้แต่สถาบันการศึกษา อย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำเนินการศึกษา และในส่วนของอำนาจของ กสทช. นั้น กสทช. ยังมีหนังสือไปถามคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย เพื่อให้ได้รับความชัดเจนในการตีความกรอบอำนาจตามกฎหมาย

ส่วนข้อกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่องราคา หรือผลกระทบด้านอื่นๆ หลังจากการควบรวมนั้น นายสืบศักดิ์ ให้ความเห็นว่า ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ในเรื่องกลไกการกำกับกิจการโทรคมนาคม เป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การควบคุมหลายด้าน ทั้งในด้านใบอนุญาต เรื่องคลื่น และเรื่องค่าบริการ ซึ่งกสทช. มีประกาศในการกำกับเพดานค่าบริการอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็ใช้อยู่ และราคายังต่ำกว่าที่กสทช. กำหนด ดังนั้น ในเรื่องข้อกังวลต่างๆ กสทช. สามารถใช้ประกาศที่มีอยู่แล้วมากำกับดูแล แต่หากกังวลว่าดีลเรื่องนี้ไม่เคยมีมาก่อน และจะต้องให้ผ่านตามประกาศ กสทช. ปี 2561 ก็สามารถออกมาตรการหรือออกประกาศเสริมได้ ซึ่งกสทช.มีอำนาจเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่าควบคุมราคาได้ ไม่มีการผูกขาด เป็นกลาง ไม่มีลักษณะของการเป็นผู้นำตลาดจนทำให้รายอื่นแข่งขันไม่ได้

ดีลนี้เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2564 แต่กสทช.เริ่มปฎิบัติหน้าที่เดือนเมษายน 2565 ตอนนี้ผ่านมา 10 เดือน ใกล้จะครบปีเต็มที ณ วันนี้ กสทช. มีข้อมูลจากการศึกษาวิจัยครบถ้วนหมดแล้ว จึงเชื่อว่าถึงจุดที่ กสทช.ต้องตัดสินใจสำหรับดีลนี้แล้วว่าจะทำอย่างไร เพราะการไม่ตัดสินใจจะเกิดผลกระทบ ไม่ใช่แค่เรื่องผู้บริโภค แต่จะเป็นบรรทัดฐานต่อไปสำหรับการทำงาน ทั้งนี้ประชาชนกำลังจับจ้องว่า กสทช. ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้ความรู้ความสามารถหรือยัง ประเด็นจึงอยู่ที่ กสทช. ต้องทำหน้าที่ของตนเอง แต่หาก กสทช. มีเหตุผลว่าจะยังรอการพิจารณา ก็ต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้จริงๆ รวมถึงการนำข้อมูลเข้าก็ต้องเป็นมติของกรรมการด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะประวิงเวลาได้หมด เชื่อว่าการตัดสินใจของ กสทช. เป็นความสง่างามแน่นอน การลงมติไม่ได้ต้องเป็นเอกฉันท์ทั้งหมด แต่ละท่านมีเอกสิทธิ์ในการโหวตและสามารถชี้แจงเหตุผลของการตัดสินใจได้

 

ด้านประเด็นจำนวนคณะกรรมการกสทช.ที่มีปัจจุบันมีเพียง 5 ท่าน อาจารย์สืบศักดิ์ ให้ความเห็นว่า ตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มี 5 ท่านก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ มีหลายเรื่องที่ดำเนินการ มีมติ และเรื่องนี้ก็เช่นกัน ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ว่าทำอะไรได้หรือทำไม่ได้ กสทช. ต้องตัดสินใจ และการตัดสินใจก็อยู่ในวาระ และข้อมูลก็มีครบแล้ว กรรมการหลายท่านรู้งานอยู่แล้ว เพราะบางท่านเคยปฏิบัติงานอยู่ใน กสทช. บางท่านเป็นนักวิชาการที่ได้รับการยอมรับจากสังคม แต่ละท่านก็มาจากหลายสาขา

การสรรหากรรมการ กสทช. จากหลากหลายสาขา ก็เพื่อให้ใช้ความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย ด้านวิชาการ หรือด้านมุมมองสังคม เพื่อมาตัดสินใจในเรื่องต่างๆ อีกหลายเรื่องในธุรกิจโทรคมนาคม จึงอยากให้สมดุลทั้งด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมและการคุ้มครองผู้บริโภคต้องไปได้ แต่จะหยุดชะงักไม่ได้ ขอให้ท่าน กสทช. มั่นใจว่าท่านปฏิบัติตามกรอบ ตามอำนาจหน้าที่ ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เชื่อว่าถ้าท่านมีเหตุผลที่ดี สังคมสามารถรับฟังได้

สำหรับประธานกรรมการ และกรรมการ กสทช. รวม 5 ท่าน ประกอบด้วย
– ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการ
– พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ (ด้านกิจการกระจายเสียง)
– ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ (ด้านกิจการโทรทัศน์)
– นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ (ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน)
– รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ (ด้านอื่นๆที่ จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. (ข) ด้านเศรษฐศาสตร์) )

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุ่มค้างค่าเช่าหลักหมื่น ทิ้งขยะกองโตท่วมห้องไว้ให้เจ้าของหอดูต่างหน้า
"ศาลอุทธรณ์" ยืนโทษคุก 8 เดือน "สมบัติ ทองย้อย" อดีตการ์ดเสื้อแดง โพสต์หมิ่น "พล.อ.ประยุทธ์" 2 ข้อความ
สพฐ. ชูศึกษานิเทศก์ทั้งประเทศ กลไกขับเคลื่อน "เรียนดี มีความสุข" สร้างคุณภาพสู่ห้องเรียน
“เต้ อาชีวะ” เดือด! จัดหนัก UN ปล่อยต่างด้าวล้นรพ.รัฐ แย่งคิวคนไทย
ปัตตานีระทึก คนร้ายชักปืน จี้ "พนง.ร้านสะดวกซื้อ" ชิงเงินสด 1.2 ล้าน หนีลอยนวล
เตรียมพบเทศกาลนานาชาติ พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2024 "จันทบุรีนครอัญมณี" ปีที่ 5 ชูเอกลักษณ์เมืองจันท์ อัญมณีอันเลื่องชื่อ
“สมศักดิ์” นำร่อง “ตู้ห่วงใย” บริการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชน ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ 
"พงษ์ศักดิ์" ยื่นร้องกกต. ขอระงับรับรองผลเลือกตั้งนายกอบจ.ขอนแก่น ชี้พบเหตุหาเสียงส่อผิดกม.
“กฤษอนงค์” ไร้เงาคนยื่นประกัน นอนคุกคืนแรก ด้าน “บอสพอล” มอบทีมกม.ยื่นค้านประกันตัว
‘ทะเลสาบน้ำเค็ม’ โผล่กลางทะเลทรายในมองโกเลียใน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น