ล้ำไปอีกขั้น! ม.มหิดลใช้ "AI" และหุ่นยนต์ ประมวลผลเพื่อความแม่นยำ วินิจฉัยอาการลุกลามของโรคเบาหวาน
ข่าวที่น่าสนใจ
“AI” ศ.นพ.จุมพล วิลาศรัศมี อาจารย์แพทย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานว่าส่วนใหญ่มักเจอปัญหาแผลหายช้า โดยเฉพาะบริเวณเท้า บางรายเกิดอาการลุกลามจนถึงกับต้องตัดเท้า ฉะนั้น จำเป็นต้องควบคุมอาหาร หมั่นพบแพทย์ เพื่อการวางแผนรักษาเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ
เดิมทีการวินิจฉัยโรคเบาหวานจะใช้อุปกรณ์ปลายแหลมที่คล้ายเอ็นตกปลากด สัมผัสไล่ตามจุดรับแรงกดบริเวณเท้าเพื่อตรวจสอบความรู้สึกของผู้ป่วย ซึ่งวิธีนี้อาจมีความคลาดเลื่อนได้ ปัจจุบันจึงมีการใช้ A I และหุ่นยนต์ มาเป็นเครื่องมือช่วยในการวินิจฉัยและประเมินผล ซึ่งเป็นผลงานการคิดค้นที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ร่วมกับทีมงานของ รอง ศ. ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งให้ผลการทดสอบเป็นที่ยอมรับ จากการได้รับการตีพิมพ์และอ้างอิงอย่างกว้างขวางในวารสารวิชาการ Asian Journal Surgery ด้วย
นอกจากนี้ แนวทางการวินิจฉัยโรคนี้ยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ First Prize Abstract and Presentation: A Novel Robotic Monofilament Test for Diabetic Neuropathy จากการประชุมโรคหลอดเลือดนานาชาติ 39th Annual VEITHsymposium ณ โรงแรมฮิลตันนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อปีพ.ศ. 2555 อีกด้วย
ซึ่งแต่เดิมทีมวิจัยได้ออกแบบให้เป็นหุ่นยนต์ติดแขนกล ทำหน้าที่คล้ายมือแพทย์ในการวินิจฉัย แม้จะเป็นแบบใช้สาย แต่ก็ได้มีการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความสะดวกสำหรับวินิจฉัยภาวะเส้นประสาทเสื่อมที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวาน
แต่ต่อมาได้พัฒนาเป็นแบบไร้สาย โดยผู้ป่วยเพียงวางเท้าตรงจุดที่กำหนด หุ่นยนต์จะทำงานตรวจเช็คจุดที่ต้องการตรวจวัดความรู้สึกของผู้เข้ารับการวินิจฉัยให้โดยอัตโนมัติ
แม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะเจริญก้าวหน้าเพียงใด แต่หากขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาวะ และการใช้ชีวิตที่เหมาะสม อาจสายเกินไปเมื่อรู้ตัวว่าร่างกายกำลังป่วยเกินเยียวยา เบาหวานอาจเป็นโอกาสให้กับผู้ที่อยู่ใน ภาวะเสี่ยงได้หันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยรุนแรงเมื่อสาย เพียงหันมาลดหวานกันอย่างจริงจังเสียตั้งแต่วันนี้
ข้อมูล : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง