วันที่ 21 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการซ่อมแซมพนังกั้นแม่น้ำชี ที่ขาดเป็นทางยาวกว่า 50 เมตรบริเวณบ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งผ่านมาแล้ว 4 วัน และเช้าวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ในการซ่อม ล่าสุดนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องยังคงเข้าติดตามความคืบหน้าการซ่อมอย่างต่อเนื่อง
โดยจากการตรวจสอบการดำเนินงานมีความคืบหน้าไปมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะระดับน้ำ และความเชี่ยวเริ่มลดลง รวมทั้งวัสดุต่างๆ โดยเฉพาะหินที่ใส่ตะแกรงเหล็กแกเบรียลมีความพร้อมมากขึ้น ทำให้ล่าสุดสามารถซ่อมแซมพนังกั้นน้ำชีที่ขาดรวม 2 ฝั่งได้ระยะทางกว่า 17 เมตรแล้ว เหลือระยะทางอีกทั้ง 33 เมตร จากระยะที่ขาด 50 เมตร
นอกจากนี้ทางด้านนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายธนภัทร ณ ระนอง ปลัด จ.กาฬสินธุ์ มอบนโยบายให้นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ป้องกันจังหวัด กำลังพลอส.สนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน รวมทั้งจิตอาสาในการซ่อมแซม หากไม่มีเหตุสุดวิสัย โดยเฉพาะฝนตกลงมา หรือมีมวลน้ำมหาศาลไหลเข้ามาอีก คาดว่าจะสามารถซ่อมเสร็จในอีก 7 วัน และขณะนี้ยังคงทำการซ่อมแซมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อปิดรอยขาดให้เร็วที่สุดสกัดมวลน้ำไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตามมวลน้ำจากพนังที่ขาดยังไหลเอ่อเข้าท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 214 สายกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด ประมาณ กม.23-กม.28 บริเวณบ้านหนองบัว ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ความสูงประมาณ 10-15 ซม. ซึ่งการจราจรผ่านได้ด้วยความระมัดระวัง รถเล็กควรใช้ทางเลี่ยง บ้านโจด ไปบ้านหนองตุ ซึ่งนางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอกมลาไสย อาสากู้ภัย ผู้นำชุมชน และประชานกั้นน้ำโดยการวางกระสอบทราย พร้อมทำการติดตั้งป้ายเตือนแนวทาง เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทางแล้ว
สำหรับภาพรวมผลกระทบจากพนังลำชีขาดล่าสุด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย รวมจำนวน 6 ตำบล 20 หมู่บ้าน 917 หลังคาเรือน ประชาได้รับผลกระทบ 2,853 คน ถนนจำนวน 7 สาย และพื้นที่การเกษตรกว่า 20,000 ไร่.
ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์
