เอ๊ะยังไง เปิดภาพ “หมอริท” บริจาครัวๆ ให้ รพ.ร้อยเอ็ด หลังสอน “โตโน่” งานนี้เจอชาวเน็ตวิจารณ์สุดย้อนแย้ง

เอ๊ะยังไง เปิดภาพ “หมอริท” บริจาครัวๆ ให้ รพ.ร้อยเอ็ด หลังสอน "โตโน่" งานนี้เจอชาวเน็ตวิจารณ์สุดย้อนแย้ง

จากกรณีที่ “หมอริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช” ดารา นักร้อง น้องคนสนิทของหนุ่มโตโน่จากเวทีเดอะสตาร์ ก็ได้ทวีตข้อความระบุว่า ยินดีด้วยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขง ของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจและความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริงๆ

(1)ในบทสัมภาษณ์มีหลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอและพยาบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่า เลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเหตุผลพวกนี้นะครับ (ไหนๆคนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว)

(2) ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากว่า 1,000 ล้าน หมอ พยาบาล เค้าก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไง ก็มีการรักษารองรับ

(3)ซึ่งจริงๆดีกับคนไทยในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพยาบาลกันเยอะ) ซึ่งทำให้หมอต้องทำงานหนัก แต่ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม

(4)ซึ่งทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะสมองไหล หมอๆก็ออกนอกระบบโรงพยาบาลรัฐกันหมด หมอก็น้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อยครับ

(6) พี่บอกว่าหมอพยาบาลเสี่ยง คำถามคือ แล้วใครปล่อยให้หมอพยาบาลทำงานภายใต้ความเสี่ยง? ถ้ารู้ว่าเค้าทำงานแบบเสี่ยงอยู่ ทำไมผู้มีอำนาจโดยตรงถึงมองไม่เห็นและไม่สามารถจัดการปัญหานั้นโดยเร่งด่วนได้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ แล้วถ้างบไม่พอจริงๆ ทำไมไม่รายงานขึ้นไป ทำไมต้องรอเงินบริจาค?

(7)ส่วนตัวมองว่า การบริจาคไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ที่มา หลักการ จุดประสงค์ของโครงการและการนำเงินไปใช้ต้องชัดเจน รวมถึงควรสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปในตัวด้วยครับ ถ้าพี่สื่อสารจุดนี้ได้ด้วย คิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะน้อยลงนะครับ และทำให้โครงการของพี่ดูมีเหตุสมควรมากขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดชาวเน็ตก็ได้มีการแชร์ภาพที่หมอริทเองก็เคยบริจาคให้กับโรงพยาบาลเช่นกัน โดยย้อนไปเมื่อปี 2562 หลังจากจัดกิจกรรมงานวันคล้ายวันเกิด อายุ 29 ปี กับบรรดาแฟนคลับเสร็จสิ้น หมอริท เดอะสตาร์ ก็ได้นำรายได้จากการจัดงานหลังหักค่าใช้จ่าย จำนวน 200,000 บาท ไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

 

นอกจากนี้สดๆร้อนๆเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2565 ครอบครัวศิริพานิช ของหมอริท ก็ได้ร่วมกันบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องผลิตออกซิเจน 3 เครื่อง, เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว 1,067 เครื่อง, ยาวิตามินซี 1,241 กระปุก, เกลือแร่ 4 ลัง, ชุด PPE 77 ชุด และปรอทวัดไข้ 150 อัน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตวิจารณ์หมอริทว่าย้อนแย้ง ตัวเองทำได้ แต่คนอื่นทำไม่ได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น