วันนี้(24 ต.ค.65) นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากรายงานข่าวจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ว่ากระทรวงสาธารณสุขเวียดนามออกแถลงการณ์ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิด A สายพันธุ์ H5 โดยผู้ป่วยเป็นเด็กหญิงวัย 5 ปี อาศัยอยู่ในจังหวัดฟู้เถาะ มีประวัติการรับประทานเนื้อไก่ และแสดงอาการประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยายบาล ซึ่งขณะนี้อาการยังอยู่ในขั้นวิกฤติ อนึ่ง เวียดนามมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกรวมอย่างน้อย 128 คน นับตั้งแต่ปี 2546 ทุกรายติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 เสียชีวิตรวม 64 ราย
กรมปศุสัตว์ แจ้งเตือนไข้หวัดนกระบาดในเวียดนาม เตรียมพร้อม แม้ไทยจะไม่พบรายงานการเกิดไข้หวัดนกมา 14 ปีแล้ว สั่งเจ้าหน้าที่ดูแลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกใกล้ชิด เฝ้าระวังโรคสัตว์ตามแนวชายแดนเข้มงวด สุ่มเก็บตัวอย่างสัตว์ปีกในพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่อง ชี้พบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ แจ้งด่วน 24 ชั่วโมง
ข่าวที่น่าสนใจ
นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ ระบุว่า แม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบรายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกมาแล้วเป็นระยะเวลา 14 ปี แต่กรมปศุสัตว์ก็ยังคงเตรียมความพร้อม และป้องกันโรคไข้หวัดนกเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยได้ สั่งการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังโรคสัตว์ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด สุ่มเก็บตัวอย่างสัตว์ปีกในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ตามแนวชายแดน พื้นที่นกอพยพ พื้นที่นกวางไข่ พื้นที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่น ฝูงเป็ดไล่ทุ่ง เป็นต้น
รวมถึงเข้มงวดการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ปีกภายในประเทศ ชะลอการนำเข้าสัตว์และซากสัตว์ปีกจากประเทศที่เกิดโรคไข้หวัดนก ส่วนสัตว์ปีกเลี้ยงในระบบฟาร์มให้เข้มงวดความปลอดภัยทางชีวภาพขั้นสูงสุด เช่น การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนและบริเวณโดยรอบ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มเข้มงวดเรื่องระบบความปลอดภัยภายในฟาร์ม ควบคุมการเข้า-ออกฟาร์ม ให้ฉีดพ่นยานพาหนะทุกคัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ได้รณรงค์ทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ได้แก่ พื้นที่นกอพยพอาศัยอยู่ พื้นที่ตามแนวชายแดน พื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่นเป็นต้น ตลอดจนผลักดันระบบการเลี้ยงสัตว์ปีกให้เข้าระบบมาตรฐาน GAP หรือ GFM รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกสังเกตอาการสัตว์อย่างใกล้ชิด หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่านำสัตว์ปีกไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือนำไปประกอบอาหารโดยเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที เพื่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินมาตรการ ควบคุมโรคทันที
หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ (สคบ.) กรมปศุสัตว์ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร. 063-225-6888 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง