จากกรณี แก๊งค้ายาเสพติดพยายามบุกชิงตัวผู้ต้องหา หลังปลัดและอส.รวม 6 นาย ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสงขลา พาผู้ต้องหาไปขยายผลล่อซื้อยาเสพติดในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ภายหลังได้ปืนพกสั้น 9 มม. ของปลัดและอส.ไป 5กระบอก ยาบ้า 2 หมื่นเม็ด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องและรถเก๋งของปลัดไปอีก 1 คัน ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้ ก่อนให้การซัดทอดอ้างว่า ฝ่ายปลัดกับพวกอาสา มีการเรียกเงิน 1 ล้านบาทแต่ต่อรองเหลือ 3 แสนบาท หรือไม่ก็ยาบ้า 100 มัด หรือไอซ์ 10 กิโลกรัมอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแลกตัวผู้ต้องหา
ออกหมายจับ ปลัด-อส.รวม 6 คน เรียกรับผลประโยชน์แก๊งค้ายา
ข่าวที่น่าสนใจ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. มีรายงานข่าวแจ้งว่า ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับปลัดและอส.ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสงขลาหรือชุดพิมาตไพรีทั้ง 6 นายแล้ว ประกอบด้วย จ่าเอกไพรัช แก้วมณี ปลัดอำเภอหัวหน้าชุด ,นายหมู่เอก เฉลิมศักดิ์ ทองแจ้ง, นายหมู่ตรี พิษณุ รัตนอุไร, สมาชิกเอก สุทธิพงษ์ สุวรรณชาตรี, สมาชิกเลิศฤทธิ์ ไชยพฤกษ์กุล, และสมาชิก อดิศักดิ์ หวังนิ ในข้อหาหรือฐานความผิด “ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันกระทำความผิด เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต”
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ผลการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ต่างให้การสอดคล้องกันว่า ปลัดไพรัชและอส.ได้เรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีอาญากับ นายธนกร สุวรรณชนะ หรือ โด่ง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดนี้จับกุม โดยให้ นายธนกร ติดต่อญาติให้นำเงิน จำนวน 1 ล้านบาท หรือยาบ้า จำนวน 100 มัด รวม 2 แสนเม็ด หรือยาไอซ์ 10 กิโลกรัมมาแลกตัว เจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญที่พบว่าทั้งปลัดไพรัชและอส.ชุดนี้เรียกรับผลประโยชน์แลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหา ทั้งข้อมูลที่มีการเจรจาต่อรองผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ของผู้ต้องหา และเบอร์โทรศัพท์ของปลัดไพรัช ที่ใช้ติดต่อพูดคุยกัน ก่อนที่จะมีการนัดหมายแลกตัวผู้ต้องหากันในคืนเกิดเหตุ
ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบพยานหลักฐาน พยานเอกสาร สอบปากคำพยานหลักฐานต่างสอดคล้องกันว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ต้องคดีนี้ มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดียาเสพติด รวมทั้ง นายธนกร กับผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ที่ถูกจับไม่รู้จักกันและถูกจับคนละเวลาไม่มีโอกาสพูดคุยเพื่อสร้างพยานหลักฐานให้ร้ายกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พนักงานสอบสวน จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับปลัดไพรัชและอส.รวม 6 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง