เมื่อสัญญาณการเมืองเริ่มชัดมากขึ้น ก็ได้เวลานับถอยหลังรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และสภาผู้แทนราษฎร ที่จะครบวาระในเดือน มี.ค. 2566 หรืออาจมีการประกาศยุบสภาก่อนเพื่อจัดการเลือกตั้ง
ทันทีที่เข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้งสิ่งที่ตามมาคือปรากฎการณ์ลาออก ย้ายพรรค ย้ายค่ายกันฝุ่นตลบ หรือบางคนเปลี่ยนขั้ว เลือกข้างใหม่กันอย่างคึกคัก ทำให้เห็นพรรคการเมืองทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ประกาศเปิดตัวยกเครื่องภายในพรรคกันอึกทึกครึกโครม
นอกจากนี้บางพรรคติวเข้มวางกลยุทธ์เตรียมพื้นที่สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งต้องรักษาฐานที่มั่นเดิม และขยายพื้นที่ ให้ได้ส.ส.ในชายคามากกว่าเดิม จึงจะได้เห็น”ปฏิบัติการดูด” ส.ส.จากทุกค่ายทุกขั้ว ซึ่งพรรคการเมืองที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดส.ส.เข้าสังกัดมากที่สุดตอนนี้ต้องยกให้ ภูมิใจไทย ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เร่งจัดทัพพร้อมรบ
แต่ต้องยอมรับว่า ในสมรภูมิอีสานเหนือ แบรนด์ภูมิใจไทยยังสู้เพื่อไทยไม่ได้ ขณะที่ในสนามกทม. แบรนด์ภูมิใจไทยก็ยังขายยาก ดูจากที่ไม่มีส.ส.ในสนามกทม. เลยแม้แต่คนเดียว การเลือกตั้งครั้งนี้มีเดิมพันสู้แลนด์สไลด์เพื่อไทย ภูมิใจไทยเลยต้องขยายพื้นที่ให้ได้ จึงมีกระแสข่าวสะพัดว่า”อนุทิน”จ่อดึง “บี”พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และอดีตแกนนำกทม.พรรคพลังประชารัฐ มาเป็นแม่ทัพเมืองหลวงปักหมุดสนามเลือกตั้งกรุงเทพฯ ให้ได้