ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง เปิดเผยกับทีมข่าว TOPNEWS ระบุว่า ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร(สภากทม.) วันนี้ (26 ต.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มีการเสนอญัตติขอรับความเห็นจากสภากรุงเทพมหานคร 2 ญัตติ ไม่ได้เป็นการขอญัตติให้สภากทม. ลงมติเห็นชอบหรือไม่ โดยเป็นการขอความเห็นของสมาชิกสภากทม. ว่ามีความเห็นต่อเรื่องเหล่านี้อย่างไร
เรื่องแรก เป็นญัตติขอรับความเห็นจากสภา กทม. เกี่ยวกับแนวทางการเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และเรื่องที่ 2 ญัตติขอรับความเห็นจากสภากรุงเทพมหานคร เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
โดยได้เสนอแนวทางการเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ไว้ 2 แนวทาง คือ 1. การเก็บค่าโดยสารในอัตรา 15 บาทตลอดสายและ 2. เก็บตามสูตร 14 + 2x บาท โดย 14 บาทเป็นค่าแรกเข้า และ 2 บาทเป็นราคาต่อสถานี ซึ่งเป็นการเก็บตามระยะทาง ว่าแนวทางใดเป็นแนวทางที่ดีกว่ากัน
ทั้งนี้ การเสนอการเก็บอัตราค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสายจะทำให้ค่าโดยสารตลอดสายอยู่ที่ 74 บาท แบ่งค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่หนึ่ง 15 บาทส่วนไข่แดง 44 บาทและส่วนต่อขยายที่สอง 15 บาท ขณะที่การเก็บอัตราค่าโดยสารตามสูตร 14 + 2x จะมีอัตราค่าโดยสารสูงสุดอยู่ที่ 59 บาท
ด้านญัตติที่ 2 ที่ผู้ว่าฯกทม ได้ขอความเห็นสภากทม. ในเรื่องของหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งในการประชุมวันนี้ญัตติทั้งสองของผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้ขอความเห็นสภากทม. ได้ถูกตีตกไป เพราะสมาชิกสภากทม. บางท่านเห็นว่าเรื่องเหล่านี้ หากจะเป็นการขอความเห็น ไม่จำเป็นจะต้องเสนอญัตติมาเช่นนี้ โดยความเห็นของคณะกรรมการจราจรและขนส่งของสภากทม. ก็มีอยู่ ซึ่งสามารถพิจารณาตามความเห็นดังกล่าวได้ และไม่จำเป็นจะต้องเสนอเป็นญัตติเข้าสู่ที่ประชุมสภากทม. ทำให้สมาชิกสภากทม. ท่านหนึ่ง เสนอให้ผู้ว่าฯกทม. ถอนญัตติดังกล่าวออกไป จึงทำให้เป็นญัตติซ้อนญัตติ และญัตติของผู้ว่าฯกทม. จึงตกไป