“ดร.สามารถ” สะท้อนชัด “ชัชชาติ” ถึงทางตันแก้หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว ทางรอดเดียวคือเปิดใจกว้าง คิดทางเลือกขยายสัมปทาน

"ดร.สามารถ" สะท้อนชัด "ชัชชาติ" ถึงทางตันแก้หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว ทางรอดเดียวคือเปิดใจกว้าง คิดทางเลือกขยายสัมปทาน

วันที่ 27 ต.ค. 65 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง โพสต์เฟซบุ๊ก ปมหนี้รถไฟฟ้าสายเขียว ผู้ว่าฯชัชชาติ ถึงทางตัน ?

วานนี้ (26 ตุลาคม 2565) ผมใจจดใจจ่ออยู่กับการประชุมของสภา กทม. อยากรู้ว่าผู้ว่าฯ ชัชชาติจะเสนอให้เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวเท่าไหร่ ? และจะแก้ปัญหาหนี้สินอย่างไร ? หลังจากที่รอมานาน แต่สุดท้ายก็เหลว !

1. ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เสนออะไรให้สภา กทม. พิจารณา ?
ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ เสนอขอความเห็นจากสภา กทม. 2 ญัตติ ดังนี้

(1) อัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-คูคต โดยเสนอให้เก็บ 15 บาทตลอดสาย ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารสูงสุด (รวมทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยาย) เท่ากับ 74 บาท หรือเก็บตามระยะทางตามสูตร 14+2X (ค่าแรกเข้า 14 บาท ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2 บาทต่อสถานี แต่ค่าโดยสารรวมทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยายไม่เกิน 59 บาท)

(2) การแก้ปัญหาหนี้สิน โดยเสนอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาของส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่ง กทม. รับโอนมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเงินประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท ถ้ารัฐบาลสามารถให้เงินสนับสนุนได้ ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติจะหาเอกชนมาร่วมลงทุนตาม พรบ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 แต่ถ้ารัฐบาลไม่สามารถให้เงินสนับสนุนได้ ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติก็ขอโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมด (ทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยาย) ให้รัฐบาล

แต่อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภา กทม. ส่วนใหญ่เห็นว่าญัตติดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจของสภา กทม. จึงได้เสนอให้ถอนญัตติออกไป

2. มท. 1 ขอความเห็นจาก ผู้ว่าฯ ชัชชาติ
หลังจาก กทม. มีผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ และมีสภา กทม. ชุดใหม่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือลงวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ถึงผู้ว่าฯ กทม. ขอทราบแนวทางการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเสนอ ครม. ต่อไป

เหตุที่ มท. 1 ขอความเห็นจากผู้ว่าฯ กทม. ก็เพราะว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ผู้ว่าฯ กทม. (ในขณะนั้น) ได้มีหนังสือถึง มท. 1 ขอความเห็นชอบให้ขยายสัมปทานให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เป็นเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี 2572-2602 โดยมีเงื่อนไขให้ BTSC แบกภาระหนี้สินทั้งหมดที่ กทม. มีอยู่กับ BTSC และ รฟม. พร้อมกับแบ่งรายได้ให้ กทม. ไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท อีกทั้ง กำหนดให้ BTSC เก็บค่าโดยสารในอัตรา 15-65 บาท (สูงสุดไม่เกิน 65 บาท)

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

3. ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะเสนอความเห็นอะไรให้ มท. 1 ?
เมื่อสภา กทม. โยนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวกลับไปที่ฝ่ายบริหารของ กทม. ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ควรพิจารณาทำหนังสือตอบ มท. 1 ไปตามแนวทางของท่านผู้ว่าฯ ดังกล่าวในข้อ 1 ข้างต้น ซึ่งผมมีความเห็นต่อแนวทางของท่านผู้ว่าฯ ดังนี้

(1) อัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 2 ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติจะเก็บ 15 บาทตลอดสาย ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารสูงสุดเท่ากับ 74 บาท หรือจะเก็บตามระยะทาง แต่ค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 59 บาท ก็ได้ แต่ท่านต้องยอมรับความจริงว่าไม่สามารถทำให้ค่าโดยสารถูกลงตามที่ท่านได้เคยหาเสียงไว้ว่าจะเก็บ 25-30 บาท ได้

(2) หากรัฐบาลช่วยสนับสนุนค่างานโยธาส่วนต่อขยายที่ 2 ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติจะเปิดประมูลใหม่หาเอกชนมารับสัมปทานเดินรถส่วนต่อขยายที่ 2 ตาม พรบ. ร่วมทุน 2562 ผมขอบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่มีเอกชนรายใดสนใจมารับสัมปทานแน่ เพราะจะขาดทุน ! หากจะเปิดประมูลใหม่ทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยายหลังสิ้นสุดสัมปทานในปี 2572 ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะยังติดสัญญาจ้าง BTSC ให้เดินรถจนถึงปี 2585

(3) หากรัฐบาลไม่ช่วยสนับสนุนค่างานโยธาส่วนต่อขยายที่ 2 ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติจะโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมดให้รัฐบาล ผมเห็นว่าแนวทางนี้ไม่ใช่เป็นการ “แก้ปัญหา” แต่เป็นการ “โยนปัญหาให้พ้นตัว” ถ้ารัฐบาลยอมรับข้อเสนอนี้ ก็น่าจะรับมาตั้งแต่สมัยท่านผู้ว่าฯ อัศวินแล้ว จะไม่ทำให้ปัญหาคาราคาซังมาจนถึงปัจจุบันนี้ และที่สำคัญ การโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมดให้รัฐบาลจะเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของบุคลากร กทม. โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรในสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ที่ได้พยายามปลุกปั้นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจนสำเร็จเป็นรถไฟฟ้าโครงการแรกของประเทศไทย

 

4. ผู้ว่าฯ ชัชชาติถึง “ทางตัน” ?
เนื่องจากท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติตั้งธงไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียงแล้วว่าจะไม่ขยายสัมปทานให้ BTSC จึงทำให้ท่านต้องเดินมาถึงทางตันในวันนี้ มีทางเดียวเท่านั้นที่ท่านจะผ่าทางตันได้ก็คือเปิดใจให้กว้าง ดูข้อดีข้อเสียในการขยายสัมปทานให้ BTSC ถ้าเห็นว่ามีข้อดีมากกว่าก็ตัดสินใจขยายสัมปทานให้ BTSC ทางเลือกอื่นไม่มีจริงๆ ทั้งหมดนี้ ด้วยความหวังดี ไม่อยากให้ กทม. มีหนี้สินพอกพูนขึ้นทุกวัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น