“ฤดูหนาว” ต้องระวัง กับ 6 โรคติดต่อที่สำคัญ รู้ก่อนปลอดภัย

4. โรคสุกใส

สาเหตุ

• เกิดจากเชื้อไวรัส

การติดต่อ

• ผ่านทางลมหายใจ ไอ จาม การสัมผัสกับผู้ป่วยหรือใช้ของร่วมกัน

อาการ

• มีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร ในผู้ใหญ่มีไข้สูง อ่อนเพลีย และปวดเมื่อยตามตัว มีผื่นเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับวันที่มีไข้ หรือหลังจากมีไข้ 1 วัน เริ่มแรกผื่นจะแดงราบ ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มนูนมีน้ำใส ๆ และมีอาการคัน

การป้องกัน

• ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮล์เจลทำความสะอาดมือ หากมีอาการป่วยควรให้หยุดเรียน หยุดงาน ประมาณ 1 สัปดาห์

5. โรคมือ เท้า ปาก

สาเหตุ 

• เกิดจากเชื้อไวรัส มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี

การติดต่อ

• เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทางปาก จากการที่เชื้อโรคติดต่ออยู่บนมือที่ปนเปื้อนอุจจาระ น้ำมูก น้ำลาย น้ำในตุ่มพองหรือแผลของผู้ป่วย

อาการ

• มีไข้ 2-4 วัน เบื่ออาหาร ในปากมีแผลเหมือนแผลร้อนใน และมีผื่นเป็นจุดแดง (มักไม่คัน) ที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือที่ก้น ต่อมาตุ่มจะกลายเป็นผื่นพองใสแดง อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน 10 วัน

การป้องกัน

• หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด หรือเจลล้างมือทุกครั้งก่อน-หลังการรับประทานอาหาร หลังการขับถ่าย และการเล่นของเล่น ตัดเล็บให้สั้น ซึ่งเป็นวิธีป้องกันการติดเชื้อการแพร่เชื้อได้ดี
• การกำจัดขยะและสิ่งปฏิกูลที่ถูกต้อง ดูแลรักษาและทำความสะอาดอาคาร สถานที่ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ และของเล่นต่าง ๆ เป็นประจำและสม่ำเสมอด้วยน้ำยาทำความสะอาด
• รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ ไม่มีแมลงวันตอม และควรใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ขวดนม ร่วมกับผู้อื่น
• หลีกเลี่ยงการนำเด็กเล็กไปในที่ชุมชนในช่วงที่มีการระบาด เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด สระว่ายน้ำ ควรอยู่ในที่ที่มีอาการศถ่ายเทได้ดี
• หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และควรแยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ
• เด็กที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ควรหยุดพักรักษาตัวที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้เด็กคนอื่น ๆ

6. โรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก 

สาเหตุ

• โรคอุจจาระร่วงในฤดูหนาวมักจะเกิดขึ้นกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี สาเหตุหลักเกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

การติดต่อ 

• โดยการดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อน

อาการ

• ถ้าอุจจาระเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน หรือถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก หรือเป็นมูกเลือดแม้เพียง 1 ครั้งต่อวัน ก็ถือว่าเป็นโรคอุจจาระร่วงได้ (ยกเว้นเด็กที่กินนมแม่ อาจถ่ายอุจจาระนิ่มเหลววันละ 3-4 ครั้ง โดยไม่มีอาการอ่อนเพลียก็ถือว่าปกติ) หากมีอาการไข้หรืออาเจียนร่วมด้วย และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่ไปพร้อมกับอุจจาระจำนวนมาก อาจทำให้ช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้

การป้องกัน

• เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะสะอาด ปลอดภัย และทำให้เด็กมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ
• ผู้ดูแลเด็กต้องล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้ง ก่อนการเตรียมอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
• ให้เด็กกินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ และดื่มน้ำสะอาด
• ให้เด็กที่ป่วยถ่ายอุจจาระในภาชนะที่รองรับมิดชิด แล้วนำไปกำจัดในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายต่อไป