จากกรณีที่ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาวิจารณ์นโยบายกัญชา ว่าเต็มไปด้วยความผิดพลาด ปล่อยให้เสรีเกินไป ไม่มีกฎหมายดูแล นั้น นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ…. กล่าวตอบโต้ ว่า นโยบายกัญชาเสรีนั้น ข้อเท็จจริง ณ ปัจจุบัน คือ มีกฎหมายรองรับ และไม่มีใครปล่อยให้กัญชา สามารถใช้ได้โดยไร้การควบคุม ย้อนไปตั้งแต่ประกาศ ยส. 5 ก็ห้ามใช้สารสกัดที่มีค่า THC สูงกว่า 0.2% ต่อมา ได้กำหนดให้กัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม คือ ห้ามใช้ในเด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และมีโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ทั้งจำ ทั้งปรับ แล้วรู้หรือไม่ การใช้กัญชา จนก่อให้เกิด กลิ่น ควัน ก่อความรำคาญ ถือว่ามีโทษตามประกาศสาธารณสุข มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ
ปากว่าตาขยิบ “ศุภชัย” ซัด “สุรวิทย์” อ้างกลัวกัญชาเสรี กระทบกระเทือนสังคม แต่ดันขวางกฎหมายที่จะเข้ามาควบคุมกัญชา ฟาดเล่นการเมืองโดยไม่สนใจบ้านเมือง เชื่อประชาชนรู้ใครพูดอย่างทำอย่าง ยันนโยบายกัญชาไม่ได้ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ
ข่าวที่น่าสนใจ
“เจ้าหน้าฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถบังคับใช้กฎหมายได้เลย แล้วมันจะเสรีได้อย่างไร ในเมื่อมีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว หน่วยงานราชการก็ออกกฎหมายมาดูแล แยกออกไปเต็มไปหมด ถ้าไม่เชื่อ ลองมาสูบกัญชาแล้วเป่าใส่หน้าผม ผมจะแจ้งตำรวจจับท่านทันทีเลย จะได้รู้กันเสียทีว่าสรุปมันเสรีตามที่ท่านบอกหรือไม่” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า นพ.สุรวิทย์ ดูเป็นห่วงเรื่องกัญชาเหลือเกิน แล้วค้าน พ.ร.บ. กัญชา ทำไม ? ทั้งที่กฎหมายฉบับนั้น เป็นกฎหมายเฉพาะสำหรับควบคุมการใช้กัญชา แล้วกฎหมายฉบับนั้น ตอบโจทย์ทุกฝ่าย มีเรื่องของการห้ามใช้ในเด็ก และเยาวชน ต่อให้จะปล่อยให้ปลูกได้ตามบ้าน แต่กฎหมาย ให้จดแจ้งการปลูก เพื่อเป็นข้อมูลให้ทางภาครัฐตรวจสอบเพื่อดูแลการใช้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญ ยังห้ามให้เด็กเข้าถึง ทั้งยังมีบทกำหนดโทษที่ชัดเจน ตรงนี้ได้อ่านหรือไม่ หรือมีธงอยู่แล้ว ว่าจะยื้อกฎหมายฉบับนี้ หรือที่ออกมาให้ข่าว ก็เพราะต้องการหาแสง หาซีน เอาใจใครบางคน ที่สำคัญ การสื่อสารของท่าน มันคือพฤติกรรมแบบทำไขสือ ปากว่า ตาขยิบ อ้างว่ากลัวกัญชาเสรี กระทบกระเทือนสังคม แต่ดันขวางกฎหมายที่จะเข้ามาควบคุมกัญชา เป็นการเล่นการเมืองโดยไม่สนใจบ้านเมือง แต่เชื่อเถอะว่าประชาชนเขารู้ ว่ากำลังพูดอย่าง ทำอย่าง
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า การที่นพ.สุรวิทย์ ระบุว่านโยบายกัญชาที่เสรีเกินไป กำลังทำลายภาพลักษณ์ของประเทศนั้น นโยบายกัญชามีกฎหมายควบคุม ส่วนเรื่องการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ มันจะไม่ไปถึงจุดนั้น เพราะมีกฎหมายดูแล และมันจะดีขึ้น ถ้าไม่มัวมานั่งขวาง พ.ร.บ. กัญชา ขณะที่เรานำกัญชาออกจากยาเสพติดมาใช้ในทางการแพทย์แล้ว ปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้วกว่า 6 ล้านคน และปีนี้ ทะลุ 10 ล้านคนแน่นอน ถือเป็นประเทศที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวเร็วมาก ระหว่างนั้น นักท่องเที่ยวต่างก็รู้ว่า ประเทศไทยคลายล็อกกฎหมายกัญชาแล้ว แต่ก็ยังเดินทางมาเรื่อยๆ สรุปกันชัดๆ นโยบายกัญชาทางการแพทย์ ไม่ได้ทำลายภาพลักษณ์ ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้ามาเมืองไทย กลับกัน กัญชา ช่วยเสริมสร้างจุดเด่นให้ประเทศไทย เป็น Medical Hub ที่สมบูรณ์ขึ้นอีกต่างหาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง