การเมืองชั่วโมงนี้เริ่มกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง วานนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Accelerating Thailand (พลิกโฉมประเทศไทย)” งานนี้น่าจะเป็นเวทีแรกที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ขายของยาวๆ หลังจากที่ไม่มีเวทีใหญ่ๆให้พูดมานานแล้ว หลักใหญ่ใจความของการพูดเมื่อวานนี้พุ่งเป้าไปที่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในช่วง 8 ปีที่เข้ามาบริหารประเทศ งานนี้บิ๊กตู่ฉายหนังม้วนเดียวจบ ร่ายยาวการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ตบปากพวกที่ชอบพูดว่า 8 ปี ไม่ทำอะไรเลย ที่บิ๊กตู่ประกาศกร้าวช่วงที่เป็นรัฐบาลได้ริเริ่มโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางอย่างบูรณาการ เมื่อทุกโครงการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการจะเป็นการเปิดประตูเดินหน้าสู่ยุคแห่งความรุ่งเรืองที่สุด ยุคหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของประเทศไทย ที่จัดการยกเครื่องใหม่ให้ก้าวหน้าไปไกลมาก ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟชานเมือง รวมถึงรถไฟฟ้าหลากหลายสายในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ยุคบิ๊กตู่ 8 ปี น่าจะสร้างรถไฟมากที่สุดในประวัติศาสตร์มากกว่าทุกรัฐบาล “ผมจะทำให้ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองของกรุงเทพฯ อยู่ในระดับเดียวกับที่โตเกียว และใกล้เคียงกับที่ลอนดอน ในเรื่องของระยะทางและจำนวนสถานี” พล.อ.ประยุทธ์ประกาศกร้าวกลางเวที
นอกเหนือจากมุมเศรษฐกิจเรื่องของการพัฒนาประเทศ วานนี้บิ๊กตู่มีโฉบพูดความในใจเรื่องการเมืองนิดหน่อย โดยเปิดใจว่าการเป็นนายกฯในช่วงที่ผ่านมา หลายครั้งหลายหนของการทำงานบริหารประเทศทำให้ต้องเสียเพื่อนไปจำนวนมากแต่ก็ต้องทำเพื่อให้บ้านเมืองไปต่อได้ “ ผมตระหนักดีว่า บางครั้งความแข็งกร้าวของผม ทำให้ผมต้องเสียเพื่อน แต่มันเป็นสิ่งที่ผมต้องยอมแลก เพื่อจะทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับประเทศ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ วันนี้ผมจึงขอให้ทุกคนเข้าใจในความตั้งใจของผม ซึ่งพยายามที่จะขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้” บิ๊กตู่ระบายความในใจออกมา งานนี้ไม่รู้ส่งสาส์นถึงใครแต่ถ้านับเฉพาะช่วงเกือบ 8 ปี ที่เห็นว่าร่วมรัฐบาลและสวนทางใส่คอนเวิร์สกันจริงๆ คนแรกก็คงต้องคิดถึง “คุณชายอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจยุคประยุทธ์1 คนต่อมาก็ไม่น่าจะหลุดจาก “เฮียกวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯรัฐนาวาเรือแป๊ะ ที่วางรากฐานทางเศรษฐกิจหลายเรื่องให้กับรัฐบาลโดยเฉพาะโครงการอีอีซีและเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนจะถูกปรับพ้นครม.ออกไป งานนี้ไม่รู้บิ๊กตู่หมายความถึง “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วยไหม เพราะมีข่าวระหองระแหง ขบเหลี่ยมเฉือนคมกันมาตลอด อยู่กันแบบทั้งรักทั้งเกลียดมาทุกรัฐบาล
ล่าสุดประเด็นเรื่องอนาคตทางการเมืองของ 2 คนก็ยังไม่รู้จะเอายังไง โดยเฉพาะการเสนอสูตร “หมอที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม” สลับสับเปลี่ยนเป็นนายกฯหมุนเวียนกันคนละ 2 ปี บิ๊กตู่เป็นก่อนเพราะเหลือเวลาแค่ 2 ปี ที่เหลือถ้าครบวาระ 8 ปีตามรัฐธรรมนูญก็ค่อยถ่ายโอนอำนาจให้ลุงป้อม แต่กรณีนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งหรือรวมเสียงตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ วันนี้อนาคตพี่น้อง 2 ป. ระหว่างบิ๊กตู่กับลุงป้อมไม่รู้จะออกหน้าไหน แต่เริ่มเห็นเค้าลางเดินคนละทางห่างกันไปเรื่อยๆ ล่าสุดกรณีลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ทิ้งบ้านเกิด 38 ปี ของ “ดร.สามสี” ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เบื้องหน้าก็คงอึดอัดกับพรรคสีฟ้าหลายเรื่อง เสนออะไรก็ไม่ทำขายไอเดียไปก็ไม่เอาไปต่อยอด หนำซ้ำเรื่องที่ทำให้อาจารย์สามสีรับไม่ได้คือกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์รับนักการเมืองสีเทาเข้ามาในพรรค แค่นั้นไม่พอตัวแกนนำพรรคอย่าง “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน แม่บ้านพรรคยังไปการันตีไปช่วยดันกับหัวหน้าพรรค ล่าสุดก็ผงาดขึ้นมาคุมภาคแล้ว แต่ในจังหวัดในพื้นที่เขารู้ดีว่า นักการเมืองคนนี้ อยู่กับธุรกิจสีเทา โตมากับอิทธิพลมืดอย่างไร เลือกตั้งเที่ยวหน้าก็เตรียมดันครอบครัวลงเล่นการเมืองหมด ประเด็นนี้ผู้เฒ่าหัวขาวอย่างดร.สามสีถึงกับรับไม่ได้ อธิบายกับใครก็ใบ้กินหมด เพราะหัวหน้ากับเลขาฯประทับตราให้ ดร.ไตรรงค์อึดอัดอยากออกจากพรรคตั้งนานแล้ว หลายเดือนก่อนเตรียมประกาศไขก๊อก แต่ถูก “เสี่ยอู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค กับ นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคไปขอร้องไปกราบถึงที่บ้านเพราะกลัวพรรคแตกก็เลยชะลอออกไปก่อน แต่รอบนี้ไปจริงเพราะสุดทนไม่อยากแอบเป็นกบฏกับพรรคที่ตัวเองรัก
ระดับกุนซือเศรษฐกิจรองนายกฯหลายสมัยอย่างดร.ไตรรงค์ลาออก เรื่องนี้ย่อมสะเทือนพรรคสีฟ้าเป็นธรรมดา และป้ายหน้าที่ดร.สามสีจะไปไม่ต้องก็รู้ว่าพรรคใหม่ที่อาจารย์ไตรรงค์จะไปอุ้มชูให้คำปรึกษาก็คงไม่แคล้วพรรครวมไทยสร้างชาติของ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่อย่างที่รู้ว่าตั้งพรรครอรับบิ๊กตู่อยู่แล้ว หรือไม่ก็ไปเป็นที่ปรึกษารัฐบาลดร.ไตรรงค์ลาออกรอบนี้บางกระแสรายงานว่าบิ๊กตู่โทรไปทาบทามเอง แต่ตอนนี้ก็เริ่มเห็นทิศทางชัดว่าพรรคใหม่ที่มีข่าวว่าบิ๊กตู่จะใช้อาศัยไปต่ออย่างพรรครวมไทยสร้างชาติก็ดูเป็นรูปเป็นร่างมีทรงมีคนดังๆแห่เข้าร่วมมากขึ้น แม้เจ้าตัวยังอุบไต๋ไม่บอกว่าจะเล่นการเมืองต่อไหมแล้วจะไปอยู่กับพรรคใด แต่ดูจะห่างไกลจากพรรคพลังประชารัฐเข้าไปทุกที
พล.อ.ประยุทธ์เริ่มขยับ ฝ่ายพล.อ.ประวิตรก็ออกตัวไปมากพอสมควร เพียงแต่ทำลับๆ ไม่กระโตกกระตากให้ชาวบ้านรู้ ล่าสุดข่าวว่าในพรรคพลังประชารัฐมีการจัดทัพวางตัวคนคุมเลือกตั้งในแต่ละโซนแต่ละภาคกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานนี้ลุงป้อมจัดนายทหารใกล้ชิดกับนักการเมืองคนสนิทลงไปคุมพื้นที่ด้วยตัวเอง ภาคเหนือวางตัว “เสธ.โย” พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ ฝ่ายเสธ.คนสนิท อนุกรรมการฝ่ายหารายได้ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ กับ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเป็นคนดูแล ภาคอีสานมี “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. กับ “บิ๊กอี๊ด” พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัภาคที่ 2 เป็นคนคุม ภาคกลาง มีวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตประธานวิปรัฐบาล ขาใหญ่เมืองโคราชแดนย่าโม กับ “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลช่วยกันดูแล คนโตสิงห์บุรีรับผิดชอบ
ส่วนกรุงเทพมหานครกับปริมณฑล ใช้ “เสธ.หิ” ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ อดีตนักนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 (ตท.25) เพื่อนซี้ร.อ.ธรรมนัสดูแล แต่เบอร์ใหญ่คนคัดเลือกตัวผู้สมัครเป็นสายตรงลุงป้อมอย่าง “เจ๊แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค อดีตรมช.แรงงานเป็นคนชี้ขาด ด้านภาคใต้ให้น้องเลิฟอย่าง “บิ๊กนัท” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกลาโหมลงไปดูแล แต่ที่ฮือฮาสุดๆ ข่าวว่าใกล้ 100 เมตร สุดท้ายจะมีรายการบิ๊กเซอร์ไพรซ์เปิดตัวร.อ.ธรรมนัสกลับบ้านเก่าซบตักลุงป้อมหวนคืนพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไม่ให้การเมืองในพรรคเกิดแรงกระเพื่อม อย่างที่รู้ในพรรคพลังประชารัฐมีโจทก์ของผู้กองเพียบ
ดูตามนี้จะเห็นคนที่หลุดไปคือสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานยุทธ์ศาสตร์พรรคจากก๊วนสามมิตร รวมถึง “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานบ้านใหญ่ชลบุรี ที่ประกาศหัวเด็ดตีนขาดจะไปกับนายกฯบิ๊กตู่ไปไหนน้องเฮ้ง ก็จะไปด้วย กลุ่มสามมิตรกับบ้านใหม่ชลบุรีดูเหมือนจะอยู่นอกสายตาลุงป้อมไปแล้ว เลือกตั้งก็นับถอยหลังใกล้เข้าทุกทีบิ๊กตู่ยังไม่เคาะว่าจะไปต่อไงแม้สัญญาณกับสิ่งแวดล้อมดูทรงน่าจะไปต่อแน่นอนแต่ไม่รู้จะไปกับพรรคพลังประชารัฐหรือสวิงไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนนี้ก็ยังกั๊กๆยังเคลียร์ไม่ลงตัวกับพี่ป้อมว่าจะไปต่อกันยังไง แต่สำหรับลุงป้อมเลือกตั้งเที่ยวหน้าเตรียมพร้อมขึ้นบัญชีแคนดิเดตนายกฯ แต่งตัวรอลุ้นเก้าอี้สร.1 แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสูตรนายกฯคนละครึ่งกับบิ๊กตู่ หรือสูตรจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯคนใหม่หลังเลือกตั้ง
///////////////