ลั่นกลองสนั่นสันทราย “จุรินทร์” บุกเชียงใหม่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. 3 คน

ลั่นกลองสนั่นสันทราย ! จุรินทร์บุกเชียงใหม่ "นำ"ประชาธิปัตย์เปิด 3 ผู้สมัครนำร่องก่อนวางตัวครบสู้ 11 เขตทั้งเชียงใหม่ มั่นใจได้ส.ส.เหนือไปช่วยประชาชนแน่ ชี้เป็นหน้าที่ กกต.ตรวจสอบปมเงินบริจาค พปชร.

วันที่ 28 ตุลาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 3 คน ในจังหวัดเชียงใหม่ว่า ความจริงแล้วเชียงใหม่กับประชาธิปัตย์มีความผูกพันมายาวนาน ผู้แทนราษฎรที่มีชื่อเสียงของพรรค ก็มีมาหลายยุคหลายสมัย ดังนั้นพรรคจึงขอเสนอตัวเพื่ออาสาอีกครั้งที่จะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับชาวเชียงใหม่ ซึ่งผู้แทนราษฎรคราวที่แล้วมี 9 เขต แต่เที่ยวหน้า ก็น่าจะขยายไปเป็น 11 เขต แต่เนื่องจากเขตยังไม่นิ่งว่า 11 เขตจะแบ่งอำเภออย่างไร แต่ละเขตอยู่กับอำเภอไหนบ้าง สำหรับประชาธิปัตย์ก็จะถือโอกาสทยอยเปิดตัวผู้สมัคร คงจะไม่เปิดตัวทีเดียวทั้งหมด เพราะต้องรอให้เขตนิ่งก่อน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ถือโอกาสเปิดตัวผู้สมัครส.ส. 3 ท่าน คือ 1. นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ อดีตวุฒิสมาชิก อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ถือว่าเป็นผู้ที่ศักยภาพในทางการเมือง ได้ลงพื้นที่มา 1-2 ปีแล้ว มีอุดมการณ์และมีประสบการณ์ เมื่อเลือกเข้าสภาแล้วสามารถทำงานได้เลย โดยจะได้เสนอตัวให้พี่น้องชาวอำเภอแม่อาย อำเภอฝาง 2. ว่าที่ร้อยโทวิศธร เถาตระกูล หรือ ทนายเต้ย คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นผู้ช่วย ส.ส. ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ได้ทำพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา 3. น.ส.จิตพลอย จิตจักรวาลทอง นักธุรกิจรุ่นใหม่ เลขานุการสมาคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจไทย – เมียนมา สาขาเชียงใหม่ และเป็นคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐเปิดตัวผู้สมัครภาคใต้ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ได้เตรียมการเรื่องตัวผู้สมัครเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรียกว่าเกือบ 100% แล้ว รอระยะเวลาที่จะทยอยเปิดตัวเท่านั้น ที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวผู้สมัครไปจำนวนหนึ่งแล้ว ที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ผู้สมัครหน้าใหม่ทั้งหมดที่เข้ามาร่วมงานกับประชาธิปัตย์ 30 ที่ ถ้าถามว่าสำหรับผู้สมัครภาคใต้พร้อมหรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่าพร้อมร้อยเปอร์เซนต์แล้วจนถึงนาทีนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกับบุตรสาวของนายจุมพล กาญจนะ หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ได้คุยกันตกผลึกแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเปิดตัว แต่ทั้งหมดนี้เราก็ไม่ทราบว่าสุดท้ายเขตจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะการแบ่งเขตก็ต้องประกาศโดยกฎหมาย ซึ่งก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต้องรอข้อเท็จจริงหน้างานอีกครั้งว่าสุดท้ายแล้วตำบลไหน อำเภอไหนจะไปบวกกับอำเภอไหน เป็นเขตอะไร แต่ถ้าเขตไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เราคิดว่ามันจะเป็น วันนี้ทุกอย่างก็ลงตัวแล้วว่าใครจะลงเขตไหนอย่างไร

“เราได้ทำงานการเมืองในภาคใต้ต่อเนื่องอยู่แล้ว และในฐานะคนที่ลงไปสัมผัสพื้นที่จริง ลงไปสัมผัสพี่น้องประชาชนตัวจริง เราก็มั่นใจมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าการเลือกตั้งคราวที่แล้วเราจะได้น้อยลงไปเยอะพอสมควร เพราะ 50 กว่าที่ เราก็ได้เพียง 22 แต่เที่ยวหน้า 58 ที่ เราก็มั่นใจว่าเราจะได้มากขึ้น และมากขึ้นกว่า 22 ไม่น้อยทีเดียว เหมือนกับที่ผมเคยพูดไป และท่านเลขาธิการพรรค ท่านนิพนธ์ ท่านเดชอิศม์ รองหัวหน้าพรรค ก็พูดตรงกันหมดว่าเราก็มั่นใจ เพราะเราคือผู้ที่ลงไปสัมผัสประชาชนตัวจริง รวมทั้งเรามีผู้แทนราษฎรปัจจุบันที่ทำพื้นที่สม่ำเสมอ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

 

นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหาพรรคพลังประชารัฐรับเงินบริจาคผิดกฎหมายว่า เรื่องนี้ตนไม่มีรายละเอียด และคิดว่าเมื่อถึงเวลา ถ้ามีการตรวจสอบ กกต. ก็คงเปิดโอกาสให้พรรคพลังประชารัฐได้ไปชี้แจง และการใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าเป็นอย่างไรนั้น ก็คงเป็นหน้าที่เบื้องต้นของ กกต. ต่อข้อถามว่าเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ อาจจะมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องของการทำหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เหมือนที่เราได้ทำมาทุกยุคทุกสมัย ส่วนการตรวจสอบขั้นสุดท้าย หรือขั้นปลาย ก็เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมในการร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองจะมาประกาศว่าใครจะจับมือกับใครอย่างไรนั้น สำหรับประชาธิปัตย์ยุคนี้ ตนพูดชัดเจนว่า เรารอคำตอบจากประชาชนก่อน เพราะประชาชนควรเป็นคนแรกที่ให้คำตอบว่า เขาต้องการให้ใครเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและให้เสียงพรรคการเมืองแต่ละพรรคมามากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพื่อที่จะนำไปสู่การนับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลในระบบรัฐสภา นั่นคือใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล คนที่มีเสียงข้างน้อย หรือซีกเสียงข้างน้อยก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์คงไม่ไปตอบก่อนที่ประชาชนจะตอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น