ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวระหว่างการประชุมเต็มคณะของสถาบันคลังสมองวัลได ดิสคัสชัน คลับ ครั้งที่ 19 ที่กรุงมอสโกว่า ก่อนหน้านี้มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ที่สามารถโต้แย้งกับสหรัฐ แต่ปัจจุบัน ได้มีหลายประเทศเริ่มปฏิเสธข้อเรียกร้องอันไม่สมเหตุสมผลของสหรัฐ แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันต่างๆ จนเรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
ขณะที่ทางนายเจีย หมิน นักวิจัยจากสถาบันการเงินของมหาวิทยาลัยเรนมินในจีน ก็กล่าวไปในทำนองนี้เช่นกันว่า ความสามารถในการปฏิเสธสหรัฐ ได้กลายเป็นสัญญาณของการเติบโตและวุฒิภาวะของประเทศต่างๆ ในด้านการเมืองระหว่างประเทศ โดยพวกเขาได้เติบโตขึ้นจากกระบวนการล้างสมอง ของวาทกรรมเสรีนิยมใหม่ตะวันตกแล้ว
นอกจากนี้ เจียยังได้ยกคำกล่าวของปูตินมาด้วยว่า สิ่งที่ปูตินบอกมานั้น ไม่ใช่จุดยืนของผู้โดดเดี่ยว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องต่อต้านสหรัฐเสมอไป สำหรับมุมมองของปูตินในเรื่องระหว่างประเทศนั้น ได้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยปกติแล้ว มหาอำนาจมักจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องแสดง แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับขีดจำกัดของอำนาจของตนเองด้วย
ทั้งนี้ เจียได้ระบุต่อว่า ความขัดแย้งและความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งสำคัญคือ ต้องสามารถควบคุมพวกเขา จัดการพวกเขา และแสวงหาการประนีประนอมอย่างใจเย็นให้ได้ และในส่วนของโลกนั้น ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเวทีใหม่ของการอยู่ร่วมกัน และการจัดการร่วมกันของมหาอำนาจด้วย