จับตา 3 กฎหมาย “กัญชา-สุราก้าวหน้า-กยศ.” ปมแตกหักพรรคร่วมรัฐบาล

จับตาเปิดสภาสมัยสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง  โฟกัส 3 กฎหมายร้อนจ่อเข้าสู่การพิจารณาของสภา “กัญชา-สุราก้าวหน้า-กยศ.”  รัฐบาลเอาไง  นับถอยหลังเลือกตั้ง เรือแป๊ะส่อร้าว หลัง “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” เห็นต่างกันในเรื่องกฎหมาย ต่างฝ่ายต่างต้องรักษาฐานเสียง คะแนนนิยมของตัวเอง  งานนี้แค่ร้าวแต่ไม่ถึงกับแตกเพราะทำสัญญาใจตั้งรัฐบาลสมัยหน้า อยู่ตรงข้ามขั้วทักษิณอย่างแน่นอน  

หลังจากปิดสภาไปนาน 2  เดือน   ล่าสุด 1 พ.ย.จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญครั้งที่ 2 ประจำปี 2565  ที่น่าจะเป็นสมัยประชุมสภาครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ภายใต้การนำของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม  ก่อนจะครบวาระสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 มี.ค.2565 เรียกว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเมืองของปลายรัฐบาลเรือแป๊ะของบิ๊กตู่แล้ว   ในส่วนการประชุมสภาในสมัยนี้ไฮไลต์สำคัญที่ต้องจับตาก็คือกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมลับดาบเชือดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยมีประเด็นสำคัญๆ 2 เรื่อง หนึ่งคือการยื่นญัตติด้วยวาจา เพื่อหารือและสอบถามนายกฯ  รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  กรณีเหตุฆาตกรรมในศูนย์เด็กเล็กอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภูเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2565 ส่งผลให้มีเด็กเล็ก ครู และประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก  ที่งานนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านพุ่งเป้าชำแหละรัฐบาลเรือแป๊ะเรื่องการแก้ไขปัญหา “ยาเสพติด” และ “อาวุธปืน” ที่ล้มเหลว  เพราะมียาเสพติดล้นเมืองสนนราคาหลักสิบบ้านหาง่ายยิ่งกว่าขนมหรือลูกอมเด็ก   ส่วนอาวุธปืนก็พกกันให้เกร่อก่อเหตุฆ่าโหดยิงกันตายไม่เว้นแต่ละวัน  จนเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุนองเลือดที่ว่าและหลายเหตุการณ์ชวนสยองหลายคดีในอดีต

สองคือการเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ ม.152  ที่ฝ่ายค้านเล็งๆไว้ว่าจะยื่นตอนเปิดสภา  แต่จะขอเปิดอภิปรายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-แปซิฟิคแล้วเสร็จในวันที่ 14-19 พ.ย.  งานนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมประเด็นการบริหารประเทศผิดพลาดสารพัดเรื่องมาขยี้รัฐบาลโจมตีนายกฯอัดพรรคร่วมรัฐนาวาเรือแป๊ะ  งานนี้เตรียมวางวันเวลาให้ใกล้เคียงช่วงใกล้ๆยุบสภา กะว่าจะสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง   โจมตีการบริหารประเทศผิดพลาดของนายกฯและควาไม่เอาไหนของรัฐบาล  ลากยาวไปถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเวลาอันใกล้    “ ศึกซักฟอกที่จะเกิดขึ้นในกลางเดือนธันวาคมนี้จะเป็นเสมือนของขวัญปีใหม่จากฝ่ายค้าน เพื่อสอบถามการแก้ปัญหายาเสพติด การใช้อาวุธปืนเกลื่อนกลาดขาดการควบคุมดูแลที่ดีพอ  บ่อนการพนัน กัญชาเสรี การเปิดให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้จนถูกสังคมตั้งคำถาม จะถูกฝ่ายค้ายนำมาชำแหละ  และรัฐบาลต้องออกมาชี้แจง  เพื่อบอกให้สังคมรับรู้ความจริงว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มีการบริหารที่ล้มเหลวหรือไม่ ” ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุ

นอกเหนือจาก 2 เรื่องสำคัญที่ฝ่ายค้านลับมีดรอรัฐบาลแล้ว  ประชุมสภารอบนี้อย่างที่รู้ว่าจะเป็นสมัยสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้แล้ว เพราะฉะนั้นกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลพยายามจะผลักดันให้สำเร็จก็ต้องเร่งออกมาให้ได้ในสมัยนี้ เพราะอนาคตก็ยังไม่รู้ว่าได้กลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกหรือไม่   ทั้งนี้กฎหมายสำคัญที่คณะกรรมาธิการชุดต่างๆ พิจารณาแล้วเสร็จ และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในวันพุธที่ 2 พ.ย. สัปดาห์นี้   มีอยู่ 5-6  ฉบับ ประกอบด้วย  1.ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ 2. ร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต 3.ร่าง พ.ร.บ.เข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 4.ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง 5.ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง   รวมถึง ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาวาระ 1 ของวุฒิสภา (ส.ว.)          จะเห็นว่า 3  ใน 5 คือกฎหมายที่มีความร้อนแรงและสุ่มเสี่ยงว่าอาจจะไปต่อลำบาก และเผลอๆอาจกลายเป็นประเด็นร้อนนำไปสู่การแตกหักของรัฐบาลได้  3 ร่างกฎหมายที่ว่าก้ประกอบด้วย 1.กฎหมายกัญชาเสรี  2. กฎหมายสุราก้าวหน้า ปลดล็อคสุราพื้นบ้าน เบียร์ชุมชน  และ 3. กฎหมายกู้เงินกยศ. ไร้ดอกเบี้ย ไร้ค่าปรับ  เพราะความที่เป็นกฎหมายสำคัญของฝั่งรัฐบาล ที่งานนี้หลายคนเกรงว่ากฎหมายทั้ง 3 ฉบับอาจกลายเป็นต้นเหตุทำการเมืองไฟลุกในสภาได้  และอาจทำให้ความเห็นของแต่ละพรรคแตกต่างกัน  บ่ายวันนี้ ( 31 ต.ค.65 ) นิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาลเลยนัดแกนนำพรรคร่วมที่อยู่ในวิปรัฐบาลมาหารือเพื่อจะได้วางแนวทางของรัฐบาลต่อกฎหมายสำคัญๆให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างน้อยก็พอจะได้รู้ว่ากฎหมายฉบับไหนจะให้ผ่านกฎหมายเรื่องไหนจะให้คว่ำ

ใน 3 กฎหมายที่ว่าไว้พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าดูจะมีปัญหาน้อยที่สุดสำหรับพรรคร่วมรัฐบาล   เพราะไม่ได้เป็นกฎหมายหลักที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาลแต่เป็นกฎหมายที่นำเสนอโดยพรรคก้าวไกล  ที่อยากเสนอให้มีการปลดล็อคการผูกขาดสุราพื้นบ้าน-เบียร์คราฟต์ให้กับคนไทย  เพราะที่ผ่านมาหลายสิบปีธุรกิจน้ำเมาถูกผูกขาดโดยนายทุนยักษ์ใหญ่ เจ้าสัวตระกูลดัง มาเป็นชาติ ไม่มีทางไม่มีโอกาสที่คนตัวเล็กบรรดาชาวบ้านจะลืมตาอ้าปาก  ได้ทำเหล้าพื้นบ้านได้ทำเบียร์ชุมชนหาเงินเลี้ยงตัวเองกันได้บ้าง เพราะติดอุปสรรคเรื่องข้อกฎหมายยุบยิบมากมายไปหมด มารอบนี้พรรคก้าวไกลสบช่องเสนอปลดล็อคกฎหมายฉบับนี้เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจเหล้าเบียร์ได้บ้าง  ไม่ใช่ผูกขาดทำได้แค่ 10 ยี่ห้อ ฟันกำไรมากมายมหาศาลชั่วกัปชั่วกัลป์  ใครจะเข้าไปทำบ้างก็ไม่ได้  ตั้งกำแพง ตั้งกฎเกณฑ์เอื้อแต่นาย  งานนี้ต้องเดาใจว่าแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลจะเอาอย่างไรกับกฎหมายฉบับนี้ จะปล่อยฟรีโหวต  หรือเลือกจะคว่ำตามยุทธ์ศาสตร์การเลือกตั้ง   เพราะหากไฟเขียวให้ผ่านไป  เชื่อแน่ว่าพรรคก้าวไกลเอาไปเคลมเอาไปหาเสียงต่อยอดกันเอิกเกริกแน่นอน   แต่สัญญาณล่าสุดที่ออกจากรัฐบาลคือจะคว่ำกฎหมายฉบับนี้  เพราะเกรงจะซ้ำรอยกัญชาเสรี  กลัวผลกระทบเรื่องเหล้าเถื่อนเบียร์ไม่ได้มาตราฐาน มอมเมาเยาวชน ฯลฯ   ที่ความจริงรัฐบาลสามารถดูแลกำหนดมาตราฐานควบคุมการผลิตเหล้าเบียร์ได้อยู่แล้ว    อย่ามัวเอาใจนายทุน หาเงินสนับสนุนเข้าพรรคมากนักเลย คิดถึงหัวอกชาวบ้านตาดำๆบ้าง

ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย กับ ร่างกู้เงินกยศ.ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอให้ไร้ดอกเบี้ย งดค่าปรับ   กฎหมาย 2 ตัวนี้แหละเชื่อว่าซัดกันแหลกแน่  โดยเฉพาะพ.ร.บ.กัญชา ที่พรรคภูมิใจไทยหมายมั่นปั่นมือว่าจะเอามาเป็นนโยบายขาย   เป็นผลงาน “โบว์แดง” อีกหนึ่ง “ธง” ของพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งคราวหน้า  โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานกับภาคเหนือ ที่ได้รับความนิยมอย่างสุดๆ  แตกต่างกันอย่างสุดล่าฟ้าเขียวกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งแต่หัวหน้ายันลูกพรรคออกมาค้านแสดงความไม่เห็นด้วยเรื่องผลักดันนโยบายกัญชาเสรีแบบสุดตัวเช่นกัน  เพราะพรรคประชาธิปัตย์ฐานเสียงสำคัญอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ส่วนหนึ่งมีพี่น้องชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่จำนวนมาก และส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเรื่องกัญชาเสรี  ไม่ว่าจะเป็นนันทนาการหรือสันทนาการ แม้แต่เอามาใช้ทางการแพทย์ก็ยังไม่ค่อยจะเห็นด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ระหว่าง 2 พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์เห็นต่างซัดกันเละแน่  ขณะที่พรรคพลังประชารัฐเรื่องกัญชาตอนเสนอวาระ 1 ก็ คว่ำแต่ไม่ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านแบบเปิดเผย

ส่วนเรื่องเงินกู้กยศ.นั้นในหลักการทั้ง 2 พรรคใหญ่รัฐบาลต่างเห็นด้วยเรื่องการหาแนวทางช่วยนักศึกษา  เปิดโอกาสให้คนเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อช่วยในการพัฒนาโอกาสต่อยอดองค์ความรู้  แต่ในรายละเอียดต่างหากที่เห็นสวนทางกัน  พรรคภูมิใจไทยอยากให้กู้ได้แบบไร้เงื่อนไขไม่มีดอกเบี้ยไม่ต้องมีค่าปรับ  ปล่อยผีให้คนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยง่าย  ความเห็นเหมือนๆแนวทางพรรคเพื่อไทย

แต่ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ออกโรงค้านเห็นว่าการทำแบบนั้น จะทำให้เกิดหนี้เสียมหาศาล อนาคตกองทุนขะขาดสภาพคล่องในการบริหารโครงการ  ทุกปีรัฐบาลจะต้องเอางบโป๊ะลงไปให้กยศ.มหาศาล ที่สุดโครงการนี้ก็จะล้มเหลว  ไม่มีเงินมาให้เด็กรุ่นหลังกู้เอาไปใช้เรียนต่อ สุดท้ายโครงการก็จะมีปัญหาไปต่อไม่ได้ในที่สุด สองคนยลตามช่องพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยดูเหมือนจะงัดกันไปหมดทุกกฎหมาย  เพราะมองกันคนละมุมเห็นกันคนละอย่าง  ส่วนพรรคพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ไม่มีจุดยืนของตัวเองลอยลมไปเรื่อย ไม่มีหลักการไม่มีนโยบายไม่มีกฎหมายอะไรเป็นของตัวเองเลยสักอย่าง  ใครจะจูงไปทางไหนก็ไปหมดขอแค่ผลประโยชน์ลงตัวกับพรรคของตัวเองก็เอาด้วยหมด  งานนี้ต้องจับตาดูว่าถึงที่สุดกฎหมายทั้ง 3 ฉบับรัฐบาลจะเอาอย่างไร  แต่ละพรรคร่วมรัฐบาลจะงัดกันหนักจัดกันเต็มมากน้อยขนาดไหน เพราะตอนนี้ทั้ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ “เสี่ยอู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ก็พร้อมแตกหักอยู่แล้วเพื่อปกป้องนโยบาย ฐานเสียงของพรรคตัวเอง  งานนี้ฟันธง 3 กฎหมายที่ว่าทำพรรคร่วมรัฐบาลร้าวแน่ แต่ถึงร้าวยังไงก็คงไม่แตกหักแน่นอน  อย่าลืมว่า 2 พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยทำสัญญาใจจับมือตั้งรัฐบาลครั้งหน้ากันแล้ว  ส่วนหาเสียงเลือกตั้งก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า แต่แก่นแท้หลังเลือกตั้งยังไงก็ไม่ตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไม่เอากับขั้วทักษิณแน่นอน

/////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น