สำนักข่าวยอนฮับและ AFP รายงานว่าชาวเกาหลีทั่วประเทศ นำโดยประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้และสุภาพสตรีหมายเลข 1 ได้เดินทางไปร่วมไว้อาลัย โดยนำดอกเบญจมาศสีขาวไปวางยังจุดไว้อาลัยทั่วประเทศ โดยประธานาธิบดียุน นายกรัฐมนตรีฮัน ดุ๊ก-ซูและนายโอ เซ-ฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซลได้ไปที่โซล พลาซ่า ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุในย่านอิแทวอน ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนทั่วไปได้นำดอกไม้ ลูกอมและเหล้าโชจูเป็นเครื่องเซ่นไหว้ ขณะที่บรรดาร้านค้าในย่านอิแทวอน ต่างร่วมใจกันปิดร้านจนถึงวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการไว้อาลัยทั่วประเทศ รวมทั้งแปะข้อความไว้อาลัยไว้ที่หน้าร้าน เจ้าของธุรกิจหลายคนบอกว่ารู้สึกช็อคและรู้สึกผิดต่อเหตุสลดที่เกิดขึ้น
และในวันนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เรียกประชุมเพื่อหาข้อสรุปจำนวนเงินช่วยผู้ประสบภัย โดยได้ข้อสรุปว่าจะจ่ายเงินชดเชยผู้เสียชีวิตศพละ 20 ล้านวอนหรือประมาณ 5 แสน 3 หมื่นบาท โดยผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติจะได้รับเงินช่วยเหลือเท่ากัน
ขณะที่ตำรวจเกาหลีใต้ได้ตั้งชุดสอบสวนพิเศษจำนวน 475 นาย เพื่อสอบปากคำพยานในเหตุการณ์ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ ซึ่งตำรวจได้ออกมายอมรับว่าไม่คาดคิดว่าจะมีจำนวนคนเข้าร่วมงานมากขนาดนี้ และไม่ทันได้สังเกตถึงจำนวนฝูงชนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่ามีผุ้เข้าร่วมราว 1 แสนคน
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 154 ราย เป็นชาวต่างชาติ 26 ราย เป็นชาวอิหร่าน 5 ราย จีนและรัสเซีย 4 ราย, อเมริกัน 2 ราย ญี่ปุ่น 2 ราย และ ไทย, ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นอร์เวย์ ออสเตรีย เวียดนาม คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และศรีลังกา ประเทศละ 1 ราย ถือเป็นเหตุเหยียบกันครั้งเลวร้ายที่สุดของเกาหลีใต้ และเป็นอุบัติเหตุครั้งเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์เรือเฟอร์รี่เซวอล ล่มในปี 2557 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 304 ราย