ติดตามต่อเนื่องกับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ค้างจ่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย หลังจากสภากทม.เสนอให้ถอนญัตติของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกไป ด้วย 2 เงื่อนไขสำคัญ คือ เห็นว่าการพิจารณาจัดเก็บค่าโดยสาร เป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้ว่าฯกทม. และ การพิจารณาอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นไปตามคำสั่งคสช.ตามมาตรา 44 ไม่ใช่อำนาจการพิจารณาของสภากทม.
ล่าสุด วันนี้ ( 31 ต.ค.) นายชัชชาติ ชี้แจงความคืบหน้าการพิจารณาแก้ปัญหา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกครั้ง ว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการร่างข้อมูล เพื่อตอบคำถามกลับไปยังกระทรวงมหาดไทย โดยคาดว่าจะสามารถส่งคำตอบทั้งหมดได้ ในช่วงสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเป็นอย่างช้า
ส่วนสาระสำคัญคำตอบ นายชัชชาติ ระบุ จะเป็นเรื่องแนวความคิดของกทม. และเรื่องจำนวนหนี้ก้อนหลัก หรือภาระหนี้ในส่วนของงานโยธา และการดำเนินการต่อไป เพราะขณะนี้บทสรุปโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี คือ การพิจารณาขยายอายุสัญญาสัมปทานโครงการออกไปจนถึงปี 2602 เพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้สะสมจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย
อย่างไรก็ตามจากการได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่อยากให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใส และทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนเรื่องการจัดเก็บอัตราค่าโดยสาร ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการพิจารณาของครม. แต่เป็นภาระของกทม.ซึ่งมีปลัดกรุงเทพมหานครเป็นคณะกรรมการร่วม คงไม่มีการนำเสนอความเห็นไปยังกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นเรื่องที่กทม.จะต้องพิจารณาดำเนินการ
เมื่อถามความคืบหน้าการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่งเคยระบุจะดำเนินการ เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมาใช้ชำระหนี้ให้กับบริษัทเอกชน นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง แต่การพิจารณาต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และการเริ่มเก็บค่าโดยสารเมื่อใด ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเริ่มจัดเก็บในปีนี้ ( 2565) หรือ ปีหน้า ( 2566) เนื่องจากในการประชุมสภากทม. ที่ผ่านมา ทางด้านสภาฯ ได้มีข้อทักท้วงในบางประเด็น และ กทม. จะต้องนำไปพิจารณาให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง