ฟังโม้มาเยอะ “สันติสุข” เหลาชัดๆ ทางตัน “ชัชชาติ” แก้หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว ถึงเวลานายกฯ มท.1 กล้าตัดสินใจ

ฟังโม้มาเยอะ "สันติสุข" เหลาชัดๆ ทางตัน "ชัชชาติ" แก้หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว ถึงเวลานายกฯ มท.1 กล้าตัดสินใจ

นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ประกาศข่าวช่องท็อปนิวส์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยระบุว่า ต้องยอมรับความจริง จึงจะผ่าทางตันสายสีเขียวได้

1. ผู้ว่าฯ ชัชชาติ มีอำนาจกำหนดค่าโดยสารได้เลยทันที คือ ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า, ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง, ช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ (ยังฟรี) และช่วงหมอชิต-คูคต (ยังฟรี)
เอาเลย ทำเลย ทำงาน กล้าตัดสินใจหน่อยครับ เหตุที่ยังไม่ทำ อย่าโทษคนอื่น เพราะไม่กล้าตัดสินใจ

2. ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ไม่สามารถทำตามนโยบายหาเสียงที่ว่า จะกำหนดค่าโดยสารไม่เกิน 25-30 บาทตลอดสาย โดยรอสายสีเขียวหมดสัญญาสัมปทานปี 2572 ยอมรับเอง ถ้าเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ค่าโดยสารรวมก็จะไม่เป็นไปตามที่หาเสียงไว้ และแพงกว่าแนวทางตามมาตรา 44 ด้วยซ้ำ

ยอมรับเอง รอจนหมดสัมปทานปี 2572 ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินไปใช้หนี้ค่างานโยธาสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 กว่า 55,000 ล้านบาท จึงร้องขอเงินจากรัฐบาลลุงตู่
ความจริง กทม.ยังต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าเดินรถส่วนต่อขยาย ตามสัญญาเดินรถฯ ปี 2555 และ 2559 ตามคำพิพากษาของศาลปกครอง เบื้องต้นราว 12,000 ล้านบาท (ยังไม่รวมดอกเบี้ย)

ค่างานโยธา ค่าเดินรถส่วนต่อขยาย ทั้งหนี้เก่าหนี้ใหม่ พอกพูนเพิ่มขึ้นทุกวัน ถ้ารวมค่าจ้างเดินรถถึงปี 2585 รวมเกือบ 4 แสนล้านบาท

เหตุที่ยังติดหล่ม เพราะไม่กล้ายอมรับความจริงว่าจะต้องผ่าทางตันโดยเจรจากับเจ้าหนี้และคู่สัญญา ตามแนวทาง ม 44

 

ข่าวที่น่าสนใจ

3. การอ้างว่า สัญญาจ้างเดินรถฯ อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั่นเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ กล่าวอย่างไม่รับผิดชอบ เอาแต่ใจตนเอง

คำพิพากษาศาลปกครองชี้ชัดว่า สัญญาเดินรถฯ ปี 55 และ 59 มีสภาพบังคับอย่างถูกต้อง หนี้ค่าจ้างเดินรถมีอยู่จริง และถึงกำหนดชำระหนี้แล้ว โดยสัญญาดังกล่าวจ้างให้บีทีเอสเดินรถจนถึงปี 2585

4. สำหรับนายกฯ ลุงตู่ และท่าน มท.1 ทางเดินที่ต้องเอาให้ชัด
มี 3 ทาง คือ

(1) เดินต่อตามกฎหมาย ตามแนวทาง ม.44 เสนอเรื่องเข้า ครม. พิจารณาให้จบ เสียงข้างมากใน ครม.ว่าอย่างไร เอาตามนั้น (กรณีต่อสัญญาสายสีน้ำเงินให้ BEM ก็ใช้ ม 44 แบบนี้แหละครับ)

(2) รัฐบาลตั้งงบประมาณส่วนกลาง จากภาษีคนทั้งประเทศ จ่ายหนี้ค่างานโยธาแทน กทม. และจ่ายค่าจ้างให้เอกชนตามคำพิพากษาศาล และตามสัญญา ฝ่ายเอกชนก็เดินรถต่อไปตามสัญญาจ้างจนหมดสัญญาปี 2585 หลังจากนั้น จะประมูลใหม่ก็ว่าไป

 

และ (3) โอนสายสีเขียวกลับไปให้ รฟม.ดูแล จัดการเคลียร์หนี้สินทั้งหลาย รวมถึงบอกเลิกสัญญากับเอกชน ซึ่งแน่นอนว่าจะเกิดค่าเสียหายก้อนโต เพราะเอกชนลงทุนเพื่อให้บริการตามสัญญาจ้างดินรถไว้หมดแล้ว และเอกชนไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้จะต้องรับผิดชอบ คือ นายกรัฐมนตรี มท.1 และ ครม. นั่นเอง

ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับภาวะผู้นำ ที่จะต้องกล้าตัดสินใจแก้ปัญหา โดยเลือกทางออกที่ดีที่สำหรับประเทศชาติ บนพื้นฐานความเป็นจริง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น